Site icon 6 AUGUST JOURNEY

นครวัด-โฮจิมิน-มุยเน่ “5 วัน” ทริปเดียวจบ [เที่ยวเสียมเรียบ]

เสียมเรียบ ทริปนี้เป็นทริปที่เราเชื่อว่าคนไทยน้อยคนจะทำกัน คนบ้าอะไรไป เที่ยวเวียดนาม แต่นั่งรถจากกัมพูชาไป !! อันนี้เรื่องจริง กับทริปบ้าบอ

5วัน 3เมือง 2ประเทศ ฉันอยากเห็นทะเลทราย และ ความอลังการของนครวัดในทริปเดียวกันนั้นเอง

งานวางแผนก็มาสิค่ะ เวลาจำกัดเท่านี้ งบก็จำกัดเช่นกัน การนั่งเครื่องบินต่อประเทศจึงไม่ตอบโจทย์ แต่นั่งเครื่องบินจากประเทศไทย และ กลับประเทศไทยยังพอมีงบได้สบายๆ ทริปนี้ถือเป็นทริปแบ็คแพคเต็มตัว สิ่งที่พบเจอก็ประทับใจมาก คุณค่าที่คุณคู่ควรแน่นอน ตามฉันมา 6 August Journey จะพาไปลุยกับทริป 5 วัน 2 ประเทศแบบลุยๆ [divider style=”dashed” height=”2px” color=”#ffff14″]งบที่ใช้ที่เสียมเรียบ (Fix cost ที่ทุกคนต้องจ่าย)

ค่าใช้จ่ายที่ทุกคนต้องจ่ายจ้า

[divider style=”dashed” height=”2px” color=”#ffff14″]ไปไหนมาบ้าง

ไปไหนมาบ้าง 5 วันนี้

[divider style=”dashed” height=”2px” color=”#deff0a”] เตรียมอะไรบ้าง

ทริคเล็กๆ เที่ยวเวียดนามอย่างไรไม่ให้โดนหลอก : คลิกที่นี่
Hak’s House ที่พัก 290 บาทรวมอาหารเช้า : คลิกที่นี่
พักกับโฮสต์ที่เวียดนามช่วยการเดินทางได้เยอะ : คลิกที่นี่

[divider style=”dashed” height=”2px” color=”#ffff14″][icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ]  วั น ที่   1 : ก รุ ง เ ท พ – เ สี ย ม เ รี ย บ

การเดินทางครั้งนี้เรารู้สึกแปลกๆหลายเรื่องแหละ เราจะเจออะไร เราจะพบใคร แอบเป็นกังวล แล้วยิ่งต้องไปในประเทศที่ขึ้นชื่อว่า ขี้หลอก ขี้โกงอย่างเวียดนามแล้ว พาให้เรารู้สึกไม่อยากไป แต่ทำไงได้จองตั๋วแล้วต้องจัดเต็ม ผ่อนคลายกันที่เสียมเรียบก่อนเป็นไง ไฟท์บิน 10 โมงเช้าจะถึงที่นั้นเป็นมาณเกือบเที่ยง ได้มาพร้อมโปรโมชั่นอีกเช่นเคย

โอ้วม่ายย เราไม่ได้ไปอินเดียนะ 55+

เวลาชั่วโมงก็ถึงแล้ว สำหรับดินแดนแห่งนครวัดแห่งนี้ สนามบินที่นี่เล็กๆ เดินเข้ามาแล้วค่อนข้างเข้าใจอะไรง่ายๆ ซ้ายเข้าเมืองธรรมดา ขวาคนต้องมีวีซ่า คนตรวจเข้าเมืองไม่พูดอะไรสักคำ 55+

แล้วความดีงามของประเทศนี้คือ Wifi ฟรีมีแทบทุกที่ แรงเวอร์

สนามบินก็เป็นหนึ่งในนั้น ก่อนจะมาที่นี่เราขี้เกียจมานั่งต่อราคาค่าตุ๊กๆ หรือ แท็กซี่นำเที่ยวเราเลยเฟซบุคไปจองคนนี้พูดไทยได้สบายๆ เขาชื่อว่า คุณสวน [เฟซบุค] นางพูดไทยได้ด้วยคิดคนล่ะ 500 บาทต่อวันคุ้มเวอร์ !!!

เรานั่งรถแบบนี้แหละในการเดินทาง

กว่าเครื่องจะลง กว่าจะจัดการเอกสารในสนามบินก็กินเวลามาครึ่งวันแล้วเราจึงตัดสินใจไม่ออกเที่ยววันนี้เลย พักผ่อน หาอะไรกิน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ

เราต้องบอกคนขับให้พาไปซื้อตั๋วไปโฮจิมินก่อน

เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญในการที่จะเดินทาง 3 เมืองอย่างสมบูรณ์โดยเราเช็คราคามาแล้วว่าเขาขายกันประมาณ 22 $ แต่ที่นี่ขาย 2 ราคา แบบออกเวลา 1 ทุ่มจะขาย 25 $ ส่วนออกเวลา 4 ทุ่มจะขาย 23$ เราเลือกแบบสี่ทุ่มจะได้เที่ยวเต็มที่

ตั๋วน่าตาแบบนี้ ใส่ซองขาวมาด้วย พร้อมเขียนหน้าซองว่าให้มารอที่ไหน ถนนอะไร ยื่นให้คนพาเที่ยวดูได้สบาย

แล้วเราก็กลับเข้าที่พัก คนขับบอกว่าที่คุณจองมามันโอเคมากเลยนะ สะอาดที่สำคัญราคาถูก ถูกจริงเราจองมา 293 บาทตกคนละ 146 บาทเองคืนนี้

ด้วยความว่าที่พักอยู่ห่างจากเมืองออกมา ฝุ่นแดง ถนนแดง ตลบเต็มหัว

ได้อารมณ์บ้านๆมาก แต่อากาศไม่ร้อนเลยเรามาช่วงปลายพฤศจิกายนแล้วอากาศดี สบายๆ สรุปแล้วเราก็จากคนขับรถในเวลาไม่นานแล้วนัดแนะกันดิบดีว่าตี 4 ครึ่งพรุ่งนี้เจอกัน

บรรยากาศที่พัก ธรรมชาติมากๆ

เวลาเหลืออีกเยอะแยะ เราเลยออกไปเดินเล่นตามชุมชนแถวนั้น รวมทั้งไปหาอะไรกินด้วยแหละ บ้านๆ งูๆ ปลาๆ แต่ชาวบ้านที่นี่ใจดีจริงๆนะ ถ้าเป็นชาวบ้านจริงๆ

คนที่นี่ถ้าเป็นพวกบริการนักท่องเที่ยวมักจะชาร์ตเงินเท่าตัว แต่ถ้าลองไปเดินตามชนบทสิ คิดราคาบ้านๆเลย

ที่ไทยมีขายอะไรที่นี่ก็มีขาย เช่น เอลเซ่ห่อละ 4 บาท นมหนองโพกล่องล่ะ 8 บาท ดีมากทำให้เราไม่คิดถึงบ้าน แล้วเราก็เดินไปร้านอาหารบ้านๆข้างทางนี่แหละ เมนูเด็ดของคนที่นี่คือ มาม่าห่อเหลืองผัดแห้งอร่อย แล้วก็กลับที่พักเตรียมพักผ่อนจ้า

[col2 ][/col2][col2 ][/col2]

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

สรุปวันที่ 23 Nov 2016 (1st) ทำอะไรกันบ้าง

ถนนหนทางทีเราเดินกันวันนี้

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ]  วั น ที่   2 : เ สี ย ม เ รี ย บ ทั้ ง วั น

ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ แล้วเสียงสั่นของมือถือก็ดังขึ้น ตี 4 แล้วเราต้องรีบตื่นขึ้นมาอาบน้ำ เพราะเราคิดไว้ว่าคืนนี้ไนซ์บัส ไม่ได้อาบน้ำจะเหนียวตัวแน่ๆ แล้วก็จัดกระเป๋าด้วยความเร็ว

เรื่องงานเร็วขนาดนี้ไหมลูก 55+

ลงมาข้างหน้าโรงแรมวางกุญแจไว้ได้เลย แจ้งเขาไว้แล้วว่าจะเช็คเอาต์แต่เช้า คุณสวน ก็มารอได้ตรงเวลาสุดๆ พูดไทยได้บ้าง อังกฤษปนบ้าง รู้เรื่องกันดี วันนี้ต้องจัดเต็ม

เรามุ่งหน้าไปซื้อตั๋วกันก่อนพอไปถึงคนก็เยอะซ่ะแล้ว 90% เป็นฝรั่งจ้าตี4 เกือบตี 5 นะเนี่ย

วิ่งให้ไว เข้าให้ถูกช่องซ้ายมือจะเป็นพวกซื้อตั๋ว 3 วันแต่อย่างเราจะอยู่โซนกลางๆ สังเกตป้าย 20$ เข้าไว้นั้นแหละป้ายเรา ไม่นานนักก็ได้ตั๋วมา ยืนยิ้มถ่ายรูปด้วย

เราก็รีบวิ่งกลับไปที่รถ เพราะถ้าช้ากว่านี้ไม่มีมุมถ่ายภาพแน่ๆ

คุณสวนก็เหมือนจะรู้แหละว่ารีบ พี่ท่านก็ขับแซงชาวบ้านเป็นว่าเล่น แล้วก็มาถึงนครวัดแบบมืดๆ เราก็เดินเข้ากันแบบมืดๆ แต่มันจะมีทางให้เดินบนสนามหญ้าคนน้อยๆ ทางนั้นแหละ 4×100 เลยค่ะพี่

วิวตรงหน้าในความมืดๆ

คนเป็นล้านสมคำร่ำลือ ณ จุดนี้แล้วเราต้องยอมเหน็บกินเพราะถ้าไม่ยอมนั่งยองๆ คนก็ยืนบังหมดแล้วใช้ Skill ความเป็นคนไทยตัวเล็กๆ แทรกแซงเข้าไปนั่ง

เธอรู้ไหมฉันนั่งท่านั้นเกือบชั่วโมงเพื่อให้ได้ภาพอลังการงานสร้าง

พูดเป็นเล่นไป เอ้า !!! เราถึงกับร้องเรียกน้องที่มาด้วยกันว่าช่วยให้พี่ยืนขึ้นได้ทีเหน็บกินทั้งขา โชว์ความชราแต่เช้า 55+ แต่มันสวยอลังการมากเลย คุ้มค่ามากทริปนี้เจ๊พอใจแล้ว แสงเป็นเฉดสวยเวอร์วัง

แสงเป็นเฉดแบบนี้ ออกมาให้เห็นแค่ 1 นาทีได้

นอกจากเราจะถ่ายรูปแล้ว เรายังถ่าย Time-slap ไว้ด้วยเอาไว้อวดชาวบ้าน และ พี่ที่ทำงานว่าเราขี้เห่อกับนครวัดใกล้บ้านขนาดไหน โอ้ยแกเราไม่ได้ไปยุโรปนะเว้ย ไม่ต้องขนาดนั้น

แกไม่เคยได้ยินประโยคนี้หรอ See Angkor Wat and die

แกต้องมาชมความงามถึงจะตายตาหลับ แสงเช้าก็เริ่มฟุ้งขึ้นเยอะ ก็ถึงเวลาที่เราจะเดินเข้าไปสำรวจภายในนั้น

พอหันหลังกลับไปจากมุมที่ยืน คุณพระคนเปนล้าน 55+

เราเคยคิดนะว่าแบบปราสาทหรอ บ้านเราก็มีหรือเปล่า มันจะต่างกับชาวบ้านยังไง ความรู้สึกแบบนี้จะหมดไป เมื่อเราได้รู้ที่มาของที่นี่ ว่าที่นี่เป็นที่เดียวที่เหลือรอดมาตั้ง 800 กว่าปี

ที่นี่เป็นสถานที่ทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่หลงเหลือ และกลายเป็นมรดกโลกไปแล้ว

คนสมัยนั้นสร้างของแบบนี้ได้นี่ไม่ธรรมดา แนะนำให้มาเที่ยวเช้าๆ เพราะจะได้ไม่ร้อนไง อิอิ

ภายในเป็นแบบนี้

มาช่วงเช้าผู้คนจะไม่เยอะมาก แถมได้แสงเช้าไปด้วย โดยข้างในจะมีจุดให้เราปีนขึ้นไปชมวิว ซึ่งต้องต่อแถวนั้นแหละ ถ้ามาช้าก็รอนานหน่อย เพราะที่นี่นักท่องเที่ยวทั่วโลก

กว้างใหญ่ ไพศาลเดินเท่าไรก็ไม่หมดเราเลยเลือกเดินเป็นด้านๆ และ ตรงกลาง

เพราะแดดเริ่มจ้าจริงๆจังด้วยแหละ หิวก็หิวต้องรีบกันหน่อย

[col2 ][/col2][col2 ][/col2]

[col2 ][/col2][col2 ][/col2]

ระหว่างทางเดินออกมา จะมีคนมาขายเซตอาหารเช้า เต็มไปหมด วิธีการที่เราใช้ก็เหมือนเดิม ไม่พูด เดินดุ่มๆออกมา แต่พวกเขาก็ทักทายเราดีนะ ประโยคแรกส่วนใหญ่จะเป็น

“Where are your from ? “

วลีเด็ดแบบนี้ถ้าเผลอตอบอาจยาวได้ 55+ แต่สู้ราคาไม่ไหวจริงๆ เซตอาหารเช้าพวกนางราคา 200 บาทจ้า เราเลยให้คุณสวนพาขับมาหาร้านเน้นว่าไม่แพง ไม่มีตังนะ นางก็ขำ นางเข้าใจภาษาไทยดี ราคา 100 บาทได้รีบกระซวกแล้วไปต่อกัน

เรานึกว่าเรามาภูเก็ตแฟนตาซี

จุดต่อไปที่เรากำลังจะเข้าไปดูเขาเรียกว่า “นครธม” โดยที่บริเวณนี้จะมี 3 ปราสาทให้เที่ยว เดินหากันได้สบายๆ ตามจริงคุณสวนก็บอกแหละว่าที่นี่คือที่ไหน

เอาเข้าจริงเราก็จำอะไรไม่ได้หรอก นอกจาก Angkor Wat

โอ้ย คือชื่อมันก็แปลกๆแหละ แต่พอมาเขียนรีวิวนี่แหละเลยรู้แล้ว 55+

ที่นี่เรียกว่า ปราสาทบายน (Bayon)

พล่างงงงงง ทัวร์จีนมาลงที่แห่งนี้เรียบร้อยแล้ว แออัดเต็มปราสาทไปหมด ถ่ายรูปแทบไม่ได้ ความพิเศษของที่นี่คือ รู้สึกไหมว่ามีคนมองเราอยู่ตลอดเวลา

ไม่ได้พูดให้หลอน เราแค่จะบอกว่าหินส่วนใหญ่ถูกแกะเป็นหน้ากษัตริย์เขาในสมัยก่อน

แต่ความงามข้างในนี้สวยนะ สวยจริงๆไม่เชื่อดูภาพข้างล่างดิ

ข้อดีของทัวร์จีนเขาก็มี

ตอนแรกก็สงสัยนี่เราเห็นคนเดียวปล่าวว่ะ ปรากฎว่าไม่ เพราะวัยรุ่นจีนเหล่านี้แห่ตัวสวยทุกคนเลย มาถ่ายแนวฮิปต์ๆกันที่นี่ ด้วยความที่นักท่องเที่ยวจีนเยอะจริง

ต้องหนีออกมาก่อน เดินไปข้างๆจะเป็น ทางเดินให้เดินไป

เดินห่างออกมาก็เห็นความอลังการอีกแบบหนึ่ง แต่ที่นี่ดีนะร่มรื่นดีเราชอบ

อีกมุมของ ปราสาทบายน

จากจุดนี้เราก็เดินกันไปต่อที่ ปราสาทบาปวน (Baphuon) อลังการงานสร้างมากพอถึงช่วงเวลานี้ แดดเปรี้ยงเลยจ้า จะไม่เดินก็ไม่ได้ เพราะคุณสวนบอกว่า เดินเที่ยวยาวๆ 3 ที่เลย

ปราสาทบา-ยน, ปราสาทบา-ปวน เดินถึงกันได้ เดินวนไปค่ะ

ปราสาทบาปวนนั้น คล้ายๆ พีระมิดที่แม็กซิโกเลย แถมให้เราเดินขึ้นไปชมวิวได้ด้วย แต่เราร้อนเวอร์เลยส่งน้องอีกคนขึ้นไป เด่วเราถ่ายรูปให้ข้างล่างนะ 55+

นั่งรอในปราสาทนี่แหละไม่ร้อน เย็นสบาย

การนั่งรอเราก็จะเห็นวีรกรรมของนักท่องเที่ยวนี่แหละ แต่ที่นี่ไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่มากนัก ไม่ค่อยเคร่งครัดเท่าไร ทัวร์จีนหลายคนก็ปีนกันสิค่ะ แต่ก็ไม่ได้เกินขอบเขตให้อันตราย

ที่นี่ในปราสาทมีความเย็น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหินหรือไม่

นั่งรอสักพักน้องก็ลงมา นางบ่นด้วยนะว่าที่นี่กำหนดทางเดินเป็น One way จะเดินกลับมาไม่ได้นอกจากต้องไปทางออกแล้ววนเข้ามาใหม่ ใครจะมาควรเดินทัวร์รอบเดียวแล้วค่อยขึ้นไป

ปีนกันเห็นๆ แต่เขาก็มีป้ายบอกแหละตรงไหนได้ไม่ได้

ในส่วนของ ปราสาทบาปวน (Baphuon) นั้นไฮไลต์จะอยู่ที่ทางออก ซึ่งเป็นหินหลายก้อนมาต่อกัน เพื่อให้ได้รูปพระพุทธรูป ที่เป็นพระนอน เป็นบ้างไม่เป็นบ้างแล้วแต่จะเห็น

บริเวณนี้สวนเยอะดี ข้อดีของการมาเที่ยวปลายฝนแบบนี้

แล้วเราก็เดินไปที่สวนต่างๆ ก่อนที่จะเดินไปรถ เดินไปเดินมาก็ไม่เจอรถ หลง !! อินเตอร์เน็ตก็ไม่มี 55+ แม่มมมมเอ้ยสรุปว่าลานที่รถจอดเยอะๆนั้นแหละรถส่วนใหญ่จะรอตรงนั้น

[col2 ][/col2][col2 ][/col2]

เวลาแบบนี้เราก็ไปกันต่อสำหรับอีกที่ ปราสาทพระขรรค์ (Preah Khan Temple) ฟังไม่รู้เรื่องอีกนั้นแหละ 55+ แต่ภาษาเขาก็ใกล้เคียงบ้านเราอยู่หรอก

ในปราสาทนี้จะมีเจ้าหน้าที่ของปราสาทดักรอตรงศูนย์กลางประสาท รอถ่ายรูปให้ แล้วพูดว่า Tip !!!

บอกเลยว่าเราก็ทำเป็นฟังไม่รู้เรื่อง ง่ายๆสั้นๆซื้อตั๋วรวม 20$ แล้วทำไมต้องมาเสียอะไรแบบนี้เพิ่ม นางก็คงเข้าใจว่าเราพูดอังกฤษไม่ได้ 55+

ศูนย์กลางปราสาท แสงเพชร

ปราสาทที่นี่ถล่มเยอะมาก คือซากหินกองเยอะ เดินๆเรายังกลัวว่าจะโดนถล่มทับไหม 55+ มาพูดถึงสาระของที่นี่สักนิด ที่นี่ถูกสร้างเพื่อเก็บอัฐิของพระธิดา

ถ้าเราอยู่ตรงศูนย์กลางปราสาท เราจะสามารถถ่ายรูปติดแสง เหมือนเราถือเพชรเม็ดงามอยู่

จบข่าวข้อมูลเรื่องราวก็มีประมาณนี้นั้นเอง

ข้างหน้าพระขรรค์

ที่สุดท้ายที่เราจะไปในช่วงแดดจ้าแบบนี้คือ ปราสาทตาพรหม (Ta Prohm) เรามาตามรอย Angelina Jolie ที่นี่ เพราะครั้งหนึ่งที่แห่งนี้เคยถูกใช้ถ่าย Tomb Raider

ที่นี่ค่อนข้างใหญ่โต คุณสวนเลยนัดแนะเราให้เดินชมจนทะลุอีกฝั่งเขาจะรอตรงนั้น

ช่วงสาระมีอยู่จริงก่อน อิอิ ที่นี่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าช่วงกษัตริย์ตอนนั้นพระพุทธศาสนาเจริญมาก กษัตรย์เลยให้สร้างประสาทในวัด ที่สำคัญที่นี่เป็นที่ๆเดียวที่ทางเขมรไม่ตัดต้นไม้ออก ถ้าเป็นปราสาทอื่นจะตัดไปแล้ว

รากไม้ที่เขาไม่ตัดออก

ความงามข้างในก็มีอยู่ แต่ความใหญ่ของรากไม้ต่างหากที่ทำให้ที่นี่เป็นจุดเด่น เขาว่ากันว่าที่นี่แทบไม่หลงเหลือศิลปะของเขมรแล้ว เพราะเป็นช่วงปลายๆเขมร

รากไม้ที่ทำให้ที่นี่เป็นจุดเด่น

นี่เที่ยวมา 5 ปราสาทได้แล้ว ยังมีปราสาทยิบๆย่อยๆที่เขาให้แวะอีกด้วยนะ ระหว่างทางก็หิวๆ ก็สั่งมาม่ากินเหมือนเดิมแหละ คือติดใจมาม่าซองเหลือง 55+ แล้วเราก็เข้าเมือง

ข้างหลังปราสาทตาพรหม

ช่วงเวลานี้ก็ปาไปบ่าย 2 กว่าๆได้เป็นธรรมเนียมที่เราจะไปหา Starbuck กินอยู่เมืองไทยไม่กินนะ 55+ คืออยากรู้ว่าแต่ละประเทศมันจะมีความต่างกันยังไง

คุณสวนก็พาแว๊นอย่างเมามัน พร้อมหยิบผ้าปิดจมูก ยื่นน้ำเย็นๆให้ด้วย

ระยะทางออกจากอาณาจักรนี้ไกลฝุ่นเยอะ เราว่าเขาบริการดีมากเลยงะเราชอบ (นางมารับเราตี 4 แล้วอยู่ด้วยจนหนึ่งทุ่มเลย) เขาก็พาเราเข้าเมืองแถว Pub street ไปที่ร้าน กาแฟ The blue pumpkin ซึ่งชั้น 2 มีที่นั่งแบบนอนได้ แน่นอนว่าเรานั่งแช่เป็นชั่วโมงจ้า

ส่งโปสการ์ดกลับบ้าน

ข้างๆร้านมีที่ขายโปสการ์ด เราเลยซื้อแล้วส่งต้นทุนการส่งตกแล้วประมาณ 2$ ต่อใบ แล้วก็แลกเงินบาทที่นี่ด้วยแหละ คือเงินดอลลาร์ที่แลกมาเรากลัวไม่พอไปใช้ที่เวียดนาม

แถวนี้มีร้านของฝาก ร้านแลกตัง ร้านนวดครบครันความเจริญ ที่อยู่ได้

ส่งโปสการ์ดเสร็จมีการไปนอนนวดขาอีกครึ่งชั่วโมงด้วยนะ 55+ สนนราคาที่ 4$ เพิ่งจะสี่โมงเย็นเองไม่มีที่ไปล่ะ คุณสวนก็ถามว่าอยากทำอะไรอีกไหม อ้อ!!! เราอยากดูพระอาทิตย์ตกดิน ไม่แพง ไม่ชาร์ตเพิ่ม ไม่เสียค่าบัตรเพิ่ม

บรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน

สถานที่ๆออกก็คือ ปราสาทพนมบาเค็ง (Phnom Bakheng) ที่นี่ต้องเดินเขาขึ้นไปไม่ไกลมาก เดินเล่นๆสบายๆ แล้วจะถึงจะเจอปราสาท

ที่นี่มีแจกบัตรด้วย เพราะเขาให้ขึ้นไปไม่เกิน 300 คน

เราไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน คำถามในใจคือ “ไหนว่ะ ความงาม ?” เอาเถอะประเด็นต่อไปคือ เราจะหาที่ไหนสิงสถิตก่อนเวลา 4 ทุ่มครึ่ง ?

Coffee Brown

พวกเราก็ให้คุณสวนพาไปสำรวจบริเวณที่ต้องรอรถก่อน สบายใจล่ะ ที่รอรถใกล้ Coffee Brown เดินไป 1 ซอยก็เจอกัน ที่นี่ปิดสี่ทุ่ม เราจะนั่งรอที่นี่แหละ

ที่นี่มีสลัดแซลมอนอร่อย 120 บาทเอง มีพาสต้า มีทาร์ตไข่

กินให้หมดร้านค่ะ กินวนไปจนกว่าจะถึงเวลา แล้วพนักงานเสริฟที่นี่ก็มาคุยด้วย น้องเขาตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าเป็นคนไทย พูดไทยใส่ใหญ่เลย

บรรยากาศในร้าน

เราอาศัยล้างหน้าแปรงฟันที่ร้านนี้ นั่งไปถึง 3 ทุ่มก็ค่อยออกมารอที่ท่ารถ ครั้งนี้เขาตั้งเก้าอี้รอเต็มเลย 55+ เดินไปเดินมาก็เพิ่งเห็นว่าห้องน้ำเขามีให้อาบน้ำด้วย

ทริคเล็กๆของการเที่ยวแบ็คแพ็ค นั่งไนซ์บัส มีที่อาบน้ำ ครบ

มันอาจไม่ได้สะอาดเวอร์ แต่มันก็เป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกสะอาด สบาย แต่ถามว่าอาบไหม ? บอกเลยว่าไม่เพราะเพิ่งมาเห็น 55+

ที่รอรถ

แล้วเราก็จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับเมืองใหม่ โฮจิมิน ซิตี้ ส่งท้ายเมืองแรก ประเทศแรกของทริปนี้ ด้วยคลิปการเดินทางของเรา แล้วไปต่อกันเลยที่ เวียดนาม

[youtube width=”90%” height=”100%” autoplay=”false”]https://www.youtube.com/watch?v=AV-eeAckreg[/youtube]

Exit mobile version