สำหรับใครหลายคนที่ต้องออกเดินทาง และ ท่องเที่ยว ถ้าไม่อยากเจอเซอร์ไพรไปแล้วไม่รู้จะนอนไหน เชื่อว่าหลายคนต้องเคยจองโรงแรมผ่านเว็บไซต์ทั้ง 3 ที่กล่าวมาค่ะ บางคนชอบ walk in เข้าไปเลยแต่ก็ต้องลุ้นกันหนักหน่อยเวลาที่เป็นช่วงเทศกาลต่างๆ วันนี้เลยอยากแนะนำแหล่งจองที่พัก ที่นำมาให้คุณได้เลือกพักผ่านหน้าเว็บ หรือ แค่ Application ที่ปลายนิ้วเราก็สามารถสบายใจได้ว่า เราจะมีที่พักในแต่ละคืนเวลาไปเที่ยวแล้ว
คื อ อ ะ ไ ร ?ทั้ง 3 ชื่อที่กล่าวมานี้เป็นตัวกลางระหว่างเรา กับ โรงแรมที่พัก ให้เราสามารถจองโรงแรมได้ล่วงหน้า โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปจองด้วยตัวเอง สะดวก และ เชื่อถือได้มากค่ะ รวมทั้งเขาก็ไม่ได้คิดค่าจองอะไรจากเราด้วย อันนี้ไม่แน่ใจแต่ที่ลองเข้าพัก 80 % ลองถามที่พักโดยตรงราคาก็เท่ากับที่จองผ่านเว็บเหล่านี้ จากการที่ได้ลองใช้บริการทั้ง 3 เจ้าที่กล่าวมา ก็ค้นพบข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป วันนี้เลยอยากนำมาแชร์ให้อ่านกันค่ะ
90 % ลองถามที่พักโดยตรง ราคาก็เท่ากับที่จองผ่านเว็บ เหล่านี้แหละค่ะ
แ ต ก ต่ า ง และ เ ป รี ย บ เ ที ย บ ให้เห็น ?คือทั้ง 3 เจ้านี้จะมีอยู่เจ้านึงที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือ Airbnb เพราะว่าเจ้านี้จะเปิดให้คนทั่วไปเปิดบ้านตัวเองให้เป็นที่พักได้ด้วย คล้ายเกสเฮาส์ว่างั้นเถอะ ส่วนอีกสองเจ้าจะเป็นอะไรที่เป็นทางการ คือ สถานที่เหล่านี้เปิดเป็นที่พัก และ โรงแรม ซึ่งทั้งสองเจ้านี้เจ้าของเดียวกันคืออยู่ในเครือ Priceline พอนึกภาพออกกันแล้วใช่ไหม ตามมาจ้า
บรรยากาศ
Airbnb เหมือนบ้าน ส่วน Agoda เป็นที่พักและโรงแรม ส่วน Booking ก็ตอบโจทย์แบ็คแพคเกอร์ตรงที่มีพักรวมให้เลือกเยอะ
เมื่อ ลองค้นหาที่พักย่าน “Tokyo” check in “27 Nov 2015” check out “28 Nov 2015” – บรรยากาศที่พบเป็นดังนี้ อยู่ที่เราว่าต้องการบรรยากาศแบบไหน แบบบ้าน แบบโรงแรม แบบมีเพื่อนเยอะ แต่แนะนำเลยค่ะว่าลองเข้าไปดูให้ครบทั้ง 3 เจ้านี้แล้วค่อยตัดสินใจจองเนอะ
การจ่ายเงิน
ข้อมูลนี้เขียนไว้วันที่ 20 Nov 2015 ค่ะ
- Agoda มีสองทางให้เลือกคือ จะจ่ายตอนจองเลย หรือ จะจองก่อนจ่ายทีหลัง แต่ทั้งคู่ต้องหักผ่านบัตรค่ะ บัตรที่มีเครื่องหมาย Visa หรือ Master card ก็ได้ซึ่งบัตรเครดิต และ เดบิตในประเทศเราก็ตอบโจทย์เรื่องนี้อยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีจ่ายผ่าน Paypal และอื่นๆอีกมากมายค่ะ สะดวกตรงนี้แหละ – ประทับใจค่ะ
- Booking ที่นี่ดีหน่อยตรงที่ไปจ่ายตอนก่อนจะพักได้เลย คือ จ่ายโดยตรงกับโรงแรม เพียงแต่เช็คให้มั่นใจด้วยค่ะว่า รับเงินสด หรือ รับบัตรเครดิต แต่ที่นี่จะให้กรอกข้อมูลบัตรไว้กันเราไม่เข้าพัก แล้ว ไม่แจ้งยกเลิกล่วงหน้า 24 ชั่วโมงเขาก็จะหักเงินเราผ่านเครดิตนั้นเอง – ประทับใจค่ะ
- Airbnb จ่ายผ่านบัตร Visa หรือ Master card เช่นกัน คือถ้าเจ้าของที่พักยืนยันกับเราจะตัดเงินอัตโนมัติตอนนั้นเลย แฮร่ๆ แนะนำค่ะควร message ไปคุยกับเขาก่อนว่ายังไงอย่าเพิ่งกดจองเลยไม่งั้นถ้าเจ้าของกดตกลงแล้วจะตัดเงินเลย – พอใช้ค่ะ
มีคนหลายคนเข้าใจว่าไม่มีบัตรเครดิตใช้บริการไม่ได้ แต่แท้จริงแล้ว บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต สมัยนี้มีเครื่องหมาย visa และ master card อยู่แล้วสมัครใช้งานซื้อของออนไลน์ได้ ก็ใช้จองได้เช่นกันค่ะ
ยกเลิก และ นโยบายการคืนเงิน
- Booking เจ้านี้แทบไม่พบปัญหาอะไร เพราะเวลาเราจ่ายเงิน เราต้องไปจ่ายที่โรงแรมเลย เหมือนเงินก็ยังอยู่ที่ตัวเรา เงื่อนไขไม่ซับซ้อนอะไรด้วย ยกเว้นว่าเราไม่ไปเข้าพัก แล้วไม่แจ้งล่วงหน้า 24 ชั่วโมงแบบนั้นเราผิดเต็มๆค่ะ – ถือว่าประทับใจค่ะ
- Agoda คือด้วยความว่าทางอโกด้าแบ่งที่พักไว้หลายระดับค่ะ เงื่อนไขการยกเลิกการจอง ก็มีหลายแบบต้องดูดีๆ เน้นว่าดูดีๆ ไม่เหมือน booking ที่มีเงื่อนไขเดียวคือยกเลิกก่อน 24 ชั่วโมงคือฟรี เราก็โดนไปเยอะค่ะ ยกเลิกทีก็เสีย 500 บาท น้ำตาจิไหลคือบางทีไปเที่ยว 10 คืนก็จำไม่ได้หรอกค่ะว่าจองเงื่อนไขไหนไป =/\= – พอใช้ค่ะ
- Airbnb เจ้านี้ก็เงื่อนไขเยอะเช่นกันค่ะ นี่คือระเบียบของเขา ระเบียบการยกเลิก Airbnb
สรุป แล้วเวลาจองอย่าลืมดู เงื่อนไขการยกเลิก ไปที่พักสะดวกไหม เวลาเช็คอินเราโอเคหรือเปล่า จะได้ไม่เกิดปัญหาและต้องทำเรื่องยกเลิกภายหลังค่ะ – สำคัญมาก !!!
ข้อดี และ ข้อเสีย ของแต่ล่ะที่
ข้อดีของ อโกด้า
มีที่พักให้เลือกเยอะมากค่ะ อย่างเช่นกรณีที่ต้องไปในที่ๆ หาที่พักยากมากๆ ลองค้นหาในอโกด้าก็จะมีค่ะ ถือเป็นข้อดีของที่นี่เลย
ระบบจ่ายเงินน่าเชื่อถือค่ะ อีกอย่างมีช่องทางให้จ่ายเยอะ ไม่มี visa ก็เอาบัญชีเราไปผูกกับ Paypal ก็ได้
ข้อเสียของ อโกด้า
เงื่อนไขการยกเลิกการจองมีมากเกินไปค่ะ ซึ่งต้องระวังดีๆ เวลาจอง ไม่งั้นอาจโดนค่ายกเลิกไปไม่น้อย
ข้อดีของ บุ๊คกิ้ง
มีที่พักแนวหอ ตอบโจทย์นักแบ็คแพคเกอร์ เยอะค่ะ ราคาก็น่าคบ
จ่ายเงินเมื่อเข้าพักได้ที่เคาเตอร์ โรงแรมและที่พักค่ะ
สามารถยกเลิกที่พักได้ฟรี ก่อนถึงวันเข้าพัก 24 ชั่วโมงถือเป็นข้อดีที่ชอบที่สุดค่ะ
ข้อเสียของ บุ๊คกิ้ง
ตอนปริ้นไปเป็นภาษาญี่ปุ่น พอเขาถามว่าหมายเขาจองอยู่ตรงไหนเราก็ไปไม่ถูกแล้วค่ะ เพราะอ่านไม่ออก
ใบจองที่ถูกส่งมาที่อีเมล ค่อนข้างสับสนค่ะ เพราะมีให้เลือกเป็นภาษาเรา หรือ ภาษาท้องถิ่นของที่พัก ทางที่ดีควรมี 3 ภาษาในหน้าเดียวเลย
ข้อดีของ แอร์บีเอ็นบี
ชอบฟังก์ชั่นนี้มากคือ สามารถแชทกับเจ้าของที่พักได้เลย เราสามารถถามอะไรก็ตามที่อยากจะรู้เกี่ยวกับที่พัก หรือ ไปไม่ถูก ไปเช็คอินช้าหน่อยก็บอกให้เขารอได้เลย ถือเป็นข้อดีมาก
ข้อเสียของ แอร์บีเอ็นบี
เวลาที่มีการแชทกับเจ้าของที่พัก สิ่งที่ตอบกลับมาจากเจ้าของที่พักจะถูกส่งมาที่ SMS, e-mail, และในแอพพลิเคชั่น พร้อมกันเลยค่ะซึ่งมือถือจะทำงานหนักมาก 55+ ตามจริงอาจตั้งค่าได้แหละ ต้องศึกษาเพิ่มค่ะ
