SEEN (Avani Riverside Bangkok) | 9 จุดถ่ายรูปสุดว้าว พร้อมดินเนอร์ดีๆ

May 30, 2019
1.4K views
20 mins read

Seen Avani Riverside – ไปกินข้าวครั้งเดียว มีรูปลงโซเชียลได้ทั้งเดือนค่ะคุณณณ !!! ก็เรื่องจริงเมื่อ Avani Riverside เขายกเอา Restaurant ชื่อดังอย่าง Seen ที่เปิดที่แรกที่ Brazil แล้วโด่งดังไปยุโรป ตอนนี้มาถึง Bangkok เราๆแล้ว 6 August Journey เลยไม่พลาดที่จะเก็บมุมสวยๆ 9 มุมมาฝากให้ทุกคนตามรอยกัน

 

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] มุมที่ 1 โค้งน้ำเจ้าพระยา


ที่ Seen เขาดีอย่างตรงที่จะมีหลากหลายโซนให้นั่ง อย่างโซนแรกโซนนี้เป็นโซนติดแอร์ และเป็นกระจกใสรอบทิศทาง ที่จะทำให้เรามองเห็นวิวเมืองกรุงเทพ และ โค้งน้ำเจ้าพระยา

ลองเอาตัวเองมานั่งอยู่ตรงนี้สิ แล้วถ่ายรูปธรรมดาๆ แต่ภาพที่ได้ออกมาได้ไม่ซ้ำใครแน่นอนเพราะมุมแบบนี้มีที่เดียวในโลก อ่อ !! ลืมบอกที่นี่ห้ามใส่รองเท้าแตะเดินเข้ามานะ แต่โซนข้างนอกจะแต่งชิลได้

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] มุมที่ 2 เหนือ Rooftop ไปอีกขั้น


เหนือชั้น 26 ขึ้นไปเขาจะมี Sky Bar ที่เราจะเต็มอิ่มกับบรรยากาศมากขึ้น กับบรรยากาศที่นั่งแบบ Day Beds กึ่งนั่งกึ่งนอนไปในตัว และจะเห็นกำแพง Seen ด้วย

จุดนี้คนจะขึ้นมาน้อย ถ้าเทียบกับชั้นล่าง ทำให้เรามีอิสระต่อการถ่ายรูปสุดๆ การมีโซนนี้เพิ่มเข้ามาทำให้ปาร์ตี้เล็กๆจะดูไม่แออัด และมีพื้นที่ไว้แดนซ์ได้มากขึ้นอีก !!!

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] มุมที่ 3 เก้าอี้ที่รู้เลยว่านั่งอยู่ที่ไหน


เราขอยกให้มุมนี้เป็น Signature ของทางร้าน เพราะเก้าอี้แบบนี้ เคาเตอร์แบบนี้ ไฟสวยๆสะท้อนกระจกแบบนี้ส่งผ่านงาน Art Deco ในยุค 80 ออกมาได้ชัดมาก งานแบบนี้จะพบเห็นได้ที่ บราซิล คิวบา และ อเมริกาส่วนใหญ่ แต่ที่นี่ยกมาอยู่ในกรุงเทพ !!!

มากันที่เก้าอี้ตัวแรก เน้นว่าตัวแรก จุดนี้จะทำให้มองเห็นแก้ว และ บรรยากาศของบาร์ ความระยิบระยับของโบเก้ในเมืองยามค่ำคืน มีที่ไหนบ้างที่จะได้ look and feel แบบนี้บ้าง

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Appetizer แนะนำ (พร้อมราคา)


คั่นเวลาด้วยเมนู Appertizer ต่างๆกันก่อนเริ่มที่เมนูแรก CHU TORO NIGIRI WITH CAVIAR (790++฿ – ปี 2019) ซูชิหน้าบลูฟิ่นทูน่า วางมาด้วยไข่ปลาคลาเวีย เกล็ดทองคำ เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยชั้นคุณภาพจริงๆ สด ปัง !!

TRUFFLE GUNKAN

ข้างๆกันจะเป็น TRUFFLE GUNKAN (560++฿ – ปี 2019) ซูชิที่มีความฟิวชั่น ละมุนลิ้นไปกับ เนื้อปลาแซลม่อน ผสมกับ หอยปูนิ่ม ข้าวปั้นคลุกมากับเห็ดทรัฟเฟิลดำ ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งเห็ด โปะมาด้วยไข่นกกระทา เป็นเมนูที่เรา Recommend !!!

SEEN TACO

มาถึงเมนู Signature ของที่นี่อย่าง SEEN TACO (620++฿ ปี 2019) โดย Taco เขาเป็นอาหารสไตล์แม็กซิกันกรอบอร่อยถูกนำมาทำสไตล์ Seen ด้วยการสอดไส้ด้วยเนื้อปูอลาสก้า มะม่วง กะหล่ำปลีม่วง มายองเนส ทับทิม และไข่ปลา Tobiko เมนูต้องสั่งสำหรับค่ำคืนนี้เลย อร่อยหาทานยากมาก

TRUFFLED LOBSTER SALAD

เมนูเรียกน้ำย่อยสุดท้าย หน้าตาธรรมดา แต่อร่อยเหลือเชื่ออย่าง TRUFFLED LOBSTER SALAD (690++฿ – ปี 2019) เขารักสุขภาพด้วยการนำหน่อไม้ฝรั่งมาบด กับ อโวคาโด ผสมกับล็อบสเตอร์ คือแบบกราบในความครีเอทสุดฤทธิ์ และ ออกมาอร่อยด้วย

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] มุมที่ 4 มองเห็น Asiatique


กินของว่างกันไปแล้ว มาต่อกันที่มุมที่ 4 คล้ายๆโซน Playground เหมาะกับการมากับแก๊งเพื่อนมาก เพราะโซนนี้ที่นั่งจะมีหลายคน แต่สิ่งสำคัญโซนนี้จะมองเห็น Asiatique จ้า

รอเวลาแสงพลบค่ำหน่อย เขาจะเปิดไฟสวยดี ถือค็อคเทลเดินมาสักแก้ว ถ่ายรูปกับมุม Asiatique ถือว่ามาถึงแล้ว 55+ และโซนนี้เราก็เห็นผู้คนมานั่งคุยธุรกิจ นำโน็ตบุคมานั่งทำงานก็มีนะ ทำงานยังไงให้โลกจำ !!!

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] มุมที่ 5 ทางสายกลาง


มุมเคาเตอร์เดิมที่เพิ่มเติมคือนั่งตรงกลางจ้า !!! ช่วงเวลาที่เขาเปิดไฟครบทุกดวงจะเด็ดมาก เราจะมองเห็นความเป็น Signature ของที่นี่ที่ไฟดวงต่างๆ สวยงาม รอจังหวะคนว่างๆ ก็มานั่งโพสต์ตรงกลางได้เลย

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] มุมที่ 6 มุมเงียบแต่โรแมนติคมาก


ตรงนี้จะเป็นบริเวณเคาเตอร์ แต่จะอยู่ด้านทางเข้าห้องแอร์ จุดนี้จะเป็นโซนที่มองเห็นวิวเมือง และ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาชัดที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้โซนนี้โรแมนติคเรายกให้เป็นหลอดไฟ

หลอดไฟกลมๆ เหมือนฟองน้ำล่องลอยสะท้อนกับกระจก ท่ามกลางวิวเมืองกรุงเทพแบบนี้ด้วย สวยงาม แนะนำเลยว่าถ้ามาดินเนอร์กับคนรักขอให้จองโต๊ะตรงนี้ เพราะ Private ขึ้นอีกระดับ

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Main Dish ห้ามพลาด (พร้อมราคา)


นั่งนานๆ เลยต้องกินอย่างจริงจังกันหน่อย เริ่มที่ Wagyu Slice 250grams (1,390++฿ ปี 2019) มากันแบบ Medium Rare กัดแล้วเนื้อฉ่ำมาก คุณภาพได้อยู่สำหรับจานนี้ ที่สำคัญอย่าลืมกินสปาเก็ตตี้กับเนื้อด้วยนะ

จานหลักถัดไป GRILLED GROUPER (820++฿ – ปี 2019) หรือปลาเก๋า ที่มาพร้อมกับ Capers Butter Sauce ทานร้อนๆ กรอบนอกนุ่มใน ดีงามมาก

GRILLED GROUPER

จานสุดท้าย JUMBO PRAWNS WITH SEMOLINA GNOCCHI (890++฿ ปี 2019) เป็นเมนูถูกใจเราอีกเมนูเลยสำหรับกุ้งราดด้วยซอสสมุนไพร มีความกระเทียมอ่อนๆคือใช่เลยข้างใต้จะมีขนมปัง กุ้งเนื้อแน่นมากเป็นเมนูที่จะสั่งแรกๆเลย

JUMBO PRAWNS WITH SEMOLINA GNOCCHI

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] มุมที่ 7: City View 


ที่นี่ไม่จำเป็นต้องจับจองแค่มุมเคาเตอร์ระยิบระยับร้อยล้าน ไม่ต้องจองแค่มุม Private หรือกลัวรำคาญมุมแก๊งคนเยอะ มันจะมีโต๊ะอยู่ 2-3 ตัวที่เราแนะนำให้มาจับจองได้เช่นกัน เขาจะมิกซ์บรรยากาศ ไม่ดังไป ไม่เงียบไป

แล้วก็นั่งแชะสักภาพ กับเก้าอี้มุมนี้ เอาเข้าจริงมุมนี้ Popular สุดนะเหมือนต้องจองอะ เท่าที่คนในร้านบอกนะ เป็นโซนริมๆ แต่บรรยากาศไม่เงียบจนเกินไป

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] มุมที่ 8 ยืน 1 ในมุมเดิม


เธอเห็นดวงไฟเหล่านี้ไหม มันสวยงาม วับวาว ควรค่าต่อการเดินมาถ่ายรูปจริงๆ พอยต์เท้าเอียง 45 องศา แชะสักภาพ ก็สวยไปอีกแบบจ้า ยืนหนึ่งในมุมเดิมแท้ๆ

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] เครื่องดื่ม ขนมหวานดีๆ (พร้อมราคา)


เริ่มแก้วแรกช่วงกลางวัน ดับร้อน ซาบซ่าได้เยอะกับ St. Charles Punch (495++฿ ปี 2019) เป็นแก้วฮิตในยุค Golden Era (1850-1880) ส่วนผสมของ Ferrand cognac กับไวน์ Tawny port เจอราสเบอรี่ช่ำๆเข้าไป หายร้อนเลย

Agua de coco

ตกค่ำหน่อยจัด Agua de coco (450++฿ ปี 2019) น้ำมะพร้ามเป็นวัตถุดิบที่หาง่ายในไทย และ บราซิล เมนูนี้จึงเกิดขึ้น แล้วมีเหมือนไข่มุขใบเตยใส่มาด้วย หวานชื่นใจจริงๆ

Ants in the pants

เครื่องดื่มที่ฮิตๆ กันมานานเขาก็มีนะอย่าง May in Thai และ Virgin G&T ที่เขาเป็น Mocktail ในราคาแก้วละ 280++฿ ชิลๆกับบรรยากาศไป ก่อนที่จะเมาเกินก็กินธรรมดาบ้าง

ขนมหวานตกท้ายวันนี้เขาเสริฟ BANANA & PEANUTS (290++฿ ปี 2019) อร่อย ชอบ ลงตัวสุด เชียร์เหมือนกันสำหรับเมนูนี้ ไม่หวานเกินไป กล้วยมีถั่วมาตัดแบบนี้คือสุด

BANANA & PEANUTS

หรือจะเป็นเมนู Signature ของที่นี่อย่าง WHITE BOMB (290++฿ ปี 2019) ความเรียบง่ายของ มูสครีม และ ราสเบอรี่เปรี้ยวๆ แต่เราชอบ Banana มากกว่าจ้า

WHITE BOMB

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] การเดินทางง่ายๆ


สำหรับการมาที่นี่สำหนับใครใช้รถส่วนตัวแนะนำ (Google Map) ส่วนใครเบื่อการจราจรบนท้องถนนแนะนำให้ใช้บริการ BTS มาลงที่สถานีสะพานตากสินเลยจ้า แล้วมารอเรือที่ท่าน้ำสาทร

ท่าเรือสาทรจะมีท่าที่มีแต่เรือโรงแรม ก็รออยู่ท่านั้น โดยที่นี่จะมีเรือให้บริการรับส่งฟรีตามตารางที่เราแปะไว้เลย เรือจะแล่นผ่าน Asiatique ด้วยสวยงาม ที่สำคัญฟรี !!!

สอบถามข้อมูล และ จองโต๊ะได้ที่
โทร : 02 431 9120
Facebook : https://www.facebook.com/seen.restaurant.bar/
Website : https://www.seenrooftopbangkok.com
E-mail : reservation@seenrooftopbangkok.com

[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] มุมสุดท้ายสวยยันห้องน้ำ


ห้องน้ำที่นี่วิวหรูมากค่ะ หรือ จะสระว่ายน้ำก็เห็นวิวเมืองได้ไม่ยากด้วย ทุกอย่างลงตัวเหมาะสมยิ่งนัก กินข้าวมื้อเดียวลงรูปได้เป็นเดือนเลยจ้า

Khun Peung (6 August Journey)

6 August Journey เป็นผู้หญิงสาย IT ที่ชอบท่องเที่ยว และ ชอบการ Staycation เป็นชีวิตจิตใจ รวมทั้งยังชอบลิ้มลอง Hotel Dining + Omakase โดยเน้นให้ข้อมูลที่ละเอียดสำหรับทุกคนไปตามรอยได้

Don't Miss