เมื่อการท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมโลก ย่อมเป็นของคู่กันกับเหล่าบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว เชื่อกันว่าเวลาไปไหนมันให้ความสุขต่างกัน แต่จะมีไม่กี่ทริปหรอกที่เราจะจำมันไปจนวันตาย …ผ่านไปแล้วสำหรับกิจกรรมดีๆที่จัดโดย [Traveloka] สำหรับกิจกรรม Talk your blog with Traveloka ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมดีๆที่รวมตัวบล็อกเกอร์แนวๆหลายท่านมาร่วมแชร์ประสบการณ์ และ เล่าถึงประสบการณ์ที่ไม่คาดฝันกัน
กิจกรรมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมชื่อดังอย่าง W Bangkok ภายใต้คอนเซปต์ของการแบ่งปัน เพื่อผู้อ่านที่หลากหลายกันไป โดยบล็อกเกอร์หลายคนที่ร่วมแชร์กันครั้งนี้มีคำตอบที่ทำให้ใครหลายคนฮือฮากันพอสมควรมาดูกันว่าเขาเหล่านี้จะตอบว่าอะไรสำหรับคำถามที่ว่า
ทริปไหนที่ทำให้เราไม่มีวันลืมได้ลง ?
คุณ Mi ขวัญใจเด็กแนวแห่ง Palapilii หลายคนรู้จักเขาจากทริป [ลาวเหนือ 5,000 บาท] ที่มียอดแชร์ 3 แสนในระยะเวลาอันสั้น ได้เล่าให้ฟังว่ามีอยู่ทริปนึง ไม่มีการวางแผนใดๆทั้งสิ้น ได้ไปเที่ยวลาวใต้ ด้วยความที่เวลาเหลือเลย เลยคิดอยากจะไปต่อที่เวียดนามแบบไม่มีแผนอาศัยถามทางชาวบ้านไปเรื่อย
สรุปว่าใช้เวลาเดินทางจากลาวไปเวียดนามทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง โดยโดนหลอกตลอดทาง โดนหลอกแม้กะทั่งให้นั่งรถขนแรงงานไป กลายเป็นแรงงานข้ามชาติไปกับเขาด้วย
แต่สุดท้ายแล้วคุณ Mi ก็ได้ข้อคิดเสมอแหละเพราะว่าทุกการเดินทาง ทำให้เราพบเจออะไรใหม่ๆ แต่สุดท้ายเราก็โตขึ้นอยู่ดี
ฝั่งพี่ Night แห่ง NightPhoomin บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยว และ การดูแลตัวเองก็จะเน้นไปถึงเรื่อง เสื้อผ้าหน้าผม เพราะการท่องเที่ยวเราต้องถ่ายรูป แน่นอนว่าเราก็อยากให้เราดูดี และที่สำคัญเราไม่รู้หรอกเราจะเจอใครข้างหน้าตอนเดินทาง บางทีอยากแอ๊วขึ้นมาจะว่าอย่างไร มีครั้งนึง
พี่ Night ลืมกระเป๋าแต่งหน้า แป้ง Laura เอยเครื่องสำอางทั้งชุดเอย ถือว่าเป็นไอเอ็มที่สาวๆหลายคนต้องร้องไห้ถ้าหายจริง
แต่ทุกความสุขของการเดินทาง ย่อมทำให้เราลืมเรื่องราวร้ายๆไปไม่ยาก ดังนั้นเวลาออกเที่ยวอย่าลืมที่จะ ถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเองกับลุคเท่ๆ เดียวเพื่อนๆจะหาว่ามาไม่ถึงนะ
มาถึงบล็อกเกอร์อีกท่านหนึ่งขวัญใจเด็กอาร์ตอย่าง Go ! Graph เหล่า Graphic & Designer 3 คนที่ออกท่องโลกมาเก็บหมดแทบจะครึ่งโลกได้แล้วโดยวันนี้ส่งตัวแทนเป็นคุณฟ้าขึ้นมาแชร์ประสบการณ์ บอกเล่าถึงทริปที่ยากจะลืมครั้งนี้คุณฟ้ายกให้เป็นทริปนั่งรถไฟจากหัวลำโพง ไป หลังคาโลกอย่างทิเบต ไม่ต้องตกใจเรื่องนี้เด็ด ! มาอยู่เมืองนึงในจีนจองตั๋วออนไลน์ไม่ได้ เลยมาลุ้นจองกันที่นั้น
ปรากฎว่าตั๋วหมดเลยต้องยอมจะนั่งรถไฟชั้น 3 ของที่นั้น จึงมีเรื่องราวเล่าขานมาว่า คุณฟ้าไม่ยอมที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำเลยเป็นเวลาทั้งสิ้น 25 ชั่วโมง
เพราะถ้าลุกคุณจะเสียม้าทันที และด้วยความที่เป็นรถไฟชั้น 3 แต่มันยิ่งกว่าชั้น 3 ของไทยคนก็เบียดตามแบบประชากรชาวจีนที่มีเยอะถึงขนาดเบาะพิงก็ยังมีคนพาดตัวขึ้นไปนอน ถ้าใครลุกจากที่นั่งจะมีคนพร้อมเข้าเสียบทันที เรียกง่ายๆ “เสียม้า” !!!! เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อคนทั้งขบวนรู้ว่าเหล่าชาว Go ! Graph เป็นคนไทยทุกคนต่างเข้ามารุมล้อม อย่างกับซุปตาร์ ร้องเพลง โฟกัส GTH ให้ฟังด้วย (คาดว่าช่วงนั้นหนัง GTH ดัง) เชื่อแล้วแหละว่าทำไมถึงยากที่จะลืมจริงๆ
บล็อกเกอร์ท่านถัดมาขอเรียกพี่วิช ผู้มีอาชีพเป็นนักท่องเที่ยว แห่ง Travel Planet Xperience เจ้าของบทความ “อาชีพนักท่องเที่ยว 6 ปี 10 ล้าน” ด้วยความที่พี่วิชเป็นนักท่องเที่ยวทั่วโลกจริงๆ ย่อมพบเจอเหตุการณ์ที่ยากจากคาดเดาบ่อยจนยากจะตัดสินใจ มีอยู่เหตุการณ์นึงที่พี่วิชเล่าว่ายากจะลืม
มีครั้งนึงออกมาล่าแสงเหนือ แต่ด้วยสภาพอากาศที่ปิดทำให้ต้องติดค้างอยู่ที่สนามบินหลายชั่วโมง
สำหรับช่างถ่ายภาพสาย Landscape ส่วนใหญ่แล้วต้องทำใจเหมือนกันกับการรอคอยธรรมชาติที่มีความไม่แน่ไม่นอนแบบนี้ แต่พี่วิชก็กลับไปถ่ายซ่อมได้เรื่อยๆ
มาถึงบล็อกเกอร์ท่านสุดท้ายน้อง ปิงปิง แห่ง Bliss out there สาวน้อยผู้มีใจรักท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ หลายคนรู้จักเธอจากการนั่งรถไฟขึ้นเหนือ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ แต่ทริปที่เธอไม่มีวันลืมแทบทำให้เราน้ำตาคลอ เพราะมีอยู่ทริปนึงได้ไปเจอกลุ่มเพื่อนใหม่ระหว่างทาง
โดยมีพี่ท่านหนึ่งเป็นคนที่ตัวใหญ่มาก และ เดินทางหลายวันก็มีท่าทีไม่สบาย แต่ก็ยังยืนยันจุดประสงค์เดิมว่าจะไปต่อให้จบจุดหมายปลายทางให้ได้ สุดท้ายมารู้อีกที เขาเป็นเบาหวานขึ้นสูง และ เสียชีวิตหลังจากจบทริปเมื่อ 1 อาทิตย์ถัดมา
ฟังแล้วก็น่าตกใจ ทั้งที่พี่เขาก็น่าจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว แต่ก็ตัดสินใจออกมาเจอโลกที่กว้างใหญ่ สร้างความทึ่ง อึ้ง และ เศร้าให้กับน้องปิงๆ อย่างมาก
ส่วนตัวเราเองนั้น ทริปที่ทำเอาตกใจคือ ญี่ปุ่น 10 วัน มีอยู่เมืองนึง เกียวโต เราเที่ยวดึกมากคืนนั้น 5 ทุ่มแล้วโผล่ขึ้นมาจากรถไฟใต้ดินพร้อมความมืดด้วยความที่ โทรศัพท์มือถือแบตหมดในเวลาแบบนี้ เดินขึ้นมาก็หลงทิศแน่ๆ จำชื่อที่พักก็ไม่ได้ จำได้ว่าใกล้ร้านเช่าชุดญี่ปุ่น แต่ตอนนี้หลงทางจริงจังสิ่งที่เราทำคือ หาคนเดินผ่านมา
แล้วก็มีผู้หญิงชาวญี่ปุ่นเดินผ่านมา เราก็ถามว่ารู้จักร้านเช่าชุดชื่อนี้ไหม อาจเป็นเพราะสำเนียงไม่ได้เขาก็เลยไม่รู้ พูดกันไปอยู่นาน เขาคงไม่เข้าใจ เราก็เลยขอยืมมือถือเขา ขอล็อคอินเข้าเมลตัวเอง แล้วได้ใบจองที่ระบบเว็บไซต์ส่งมาให้ ก็ได้แผนที่มาได้
น้ำตาจะไหล ไม่เคยรู้สึกโชคดีขนาดนี้มาก่อนเลย 55+ ย้อนนึกกลับไปแล้วก็รู้สึกว่าลืมไม่ลงจริงๆ แล้วประสบการณ์ของคุณล่ะมีจุดไหนที่พีคกันแบบสุดๆบ้าง แนะนำว่าให้ลองเล่าสู่กันฟังบ้าง ต้องขอขอบคุณ Traveloka ที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ และสร้างโปรโมชั่น พร้อมแอพลิเคชั่นที่จองที่พักได้สะดวก และ ราคาสมเหตุสมผลแบบนี้จ้า