ภูเขาไฟฟูจิ ทริปนี้เป็นทริปที่เดินทางต่อมาจาก โตเกียว 3 วัน 2 คืน ก่อนที่จะส่งผ่านตัวเองไปยัง เกียวโต 3 วัน 2 คืน และ เป็นอีกทริปที่ เดินทางคนเดียวยาวนานมาก ทำเอาคิดถึงบ้านเลยง่ะกับทริป
ญี่ปุ่น 9 วัน โตเกียว คาวากูจิ เกียวโต โอซาก้า โกเบ ครั้งแรก
รีวิวขอพูดถึงการตามหา “ภูเขาไฟฟูจิ ที่แสนขี้อาย” ให้อ่านกันค่ะ ตามจริงแล้วเราไม่ได้พบเจอหรอกค่ะ ภูเขาไฟที่ว่า เพียงแต่แค่ขอเก็บข้อมูลมาฝากกันเฉยๆก็ยังดี เพราะไปครั้งหน้าไม่พลาดแน่นอน รวมทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่อยากแนะนำค่ะ ตามฉันมา ฉันจะพาไปชม
[divider style=”dashed” height=”2px” color=”#f2ff00″]งบที่ใช้สำหรับเมืองนี้:
5,600 เยน หรือ ประมาณ 1,568 บาทไทย (ค่าเที่ยว 1 วัน)
อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 0.28 จ้า
[section background_image=”http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02490.jpg” text_color=”#ffffff” background_color=”#eeeeee”]
[icon type=”fa-circle-o-notch” color=”#999999″ size=”16px”] 2,500 Y – ค่ารถไฟจากชินจูกุ ไป คาวากูจิโกะ
[icon type=”fa-circle-o-notch” color=”#999999″ size=”16px”] 2,300 Y – Retro R Coupon ค่ารถ เคเบิล เรือ ที่ทะเลสาป
[icon type=”fa-circle-o-notch” color=”#999999″ size=”16px”] 600 Y – ราเม็งที่สถานี
[icon type=”fa-circle-o-notch” color=”#999999″ size=”16px”] 200 Y – ขนมหนึบกับชาบนมุมมหาชน
[/section]
[divider style=”dashed” height=”2px” color=”#f2ff00″]เตรียมอะไรบ้าง
[icon type=”fa-circle” color=”#999999″ size=”16px”] เตรียมวางแพลนการเดินทางโดยต้องรู้ว่ารถไฟต่ออะไร: Hyperdia
[icon type=”fa-circle” color=”#999999″ size=”16px”] รายละเอียดบัสที่วิ่งรับส่งรอบทะเลสาป : คลิกที่นี่
[divider style=”dashed” height=”2px” color=”#f2ff00″]
[icon type=”fa-paper-plane-o” color=”#999999″ size=”28px”] การเดินทางเริ่มแล้ว
![จุดเริ่มต้นการเดินทางคือ ออกจากชินจูกุ ด้วยรถไฟรอบแรก](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02374.jpg)
ขอเท้าความกลับไปเมื่อคืน หลังจากที่ลุ้นมาก เพราะเมื่อคืนดันเจอเซอร์ไพร์ จองที่พักลืมดูว่ามันเป็น Mix dorm เลยลุ้นกันหนักหน่อยว่าคืนนี้จะได้นอนกับใคร เพราะช่วงเช้าไปเก็บกระเป๋า เจอผู้ชายคนเดียวนอนอยู่ แต่สรุปแล้ว
เมื่อคืนมี สามี ภรรยา คู่หนึ่ง มานอนที่ Mix dorm รู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัยขึ้นมาทันที
เช้ามาเลยต้องรีบออกจากที่พักตั้งแต่เช้ามืด เพราะว่าเราต้องมุ่งหน้าไปที่ ภูเขาไฟฟูจิ ที่อยู่นอกเมืองโตเกียว ซึ่งใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 1 ชั่วโมงกว่าๆ ถ้านั่งจาก ชินจูกุ น่ะ
![กว่าจะมาถึงรถไฟ คาวากูจิ ต้องผ่านมาดังนี้](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/page-1.jpg)
โดยเราเลือกเดินทางด้วยรถไฟนั้น เพราะ เร็วที่สุดแล้ว ถ้าเทียบกับการนั่งบัสต่างๆ ประกอบกับเวลาก็สามารถควบคุมได้ โดยกว่าจะมาถึง รถไฟสายคาวากูจิโกะ นั้นต้องผ่านรถไฟถึงสองขบวนตามภาพข้างบนจ้า มีเรื่องเน้นย้ำ
การต่อรถไฟต้องมีความแม่นยำสูง เพราะมีเวลาต่อรถไฟแค่ 5 นาทีไม่งั้นต้องรออีก ครึ่งชั่วโมงขบวนถัดไปถึงจะมาอีก
เพราะเราก็โดนมาแล้วจ้า เกิดความสับสนไม่มั่นใจว่าต้องมาต่อสายนี้ที่ชานชลาไหน และ ซื้อตั๋วไม่เร็ว กระเป๋าติดตัวมาอีก เลยต้องแอบสโลไลต์ รอรถไฟ จุดนี้เองทำให้เราได้พบสองตายายที่น่ารัก เขาเป็นคนญี่ปุ่นน่ะ แล้วคอยบอกเรารอตรงไหน แล้วเขาก็คุยด้วยตลอดทาง แต่เขาพูดภาษาญี่ปุ่นน่ะ เราก็เดาๆ ยิ้มๆ ตอบๆ คุยกันนานรู้เรื่องเฉย
![จุดนี้แหละค่ะที่เจอสองตายายชาวญี่ปุ่น คุยกันยาวๆ](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02378.jpg)
การเดินทางบนรถไฟญี่ปุ่นในช่วงเวลาเช้า แล้วอยู่บนรถไฟนานเป็นชั่วโมงนั้น ทำให้เราซึมซับความเป็นญี่ปุ่นไปอีกแบบ เพราะตลอดทาง เราจะพบนักเรียนญี่ปุ่น ขึ้นๆ และ ลงป้ายโรงเรียน
เด็กที่นี่มียูนิฟอร์มที่น่ารัก และ มีนิสัยอย่างนึงที่คล้ายกันคือ อ่านหนังสือ และ กินข้าวบนรถไฟตลอดทาง
ดูแล้วก็น่าเอาแบบอย่างค่ะ เพราะ การอ่านหนังสือถือเป็นเรื่องดีๆ ที่จะใช้เริ่มต้นชีวิตในแต่ละวันจ้า นอกจากผู้คนที่ได้พบเจอแล้ว รถไฟสายนี้มุ่งออกนอกเมือง เราจะเห็นความเป็นชนบทของที่นี่ แต่ ชนบทที่นี่มีความสะอาด ระเบียบ และ น่าอยู่ขึ้นเยอะจ้า
![วิวสองข้างทาง ก็สำคัญไม่แพ้ปลายทาง](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02387.jpg)
เรานั่งไปเรื่อยๆจนถึงสถานี Otsuki ซึ่งเป็นสถานีต้นทางของการไปต่อรถไฟสาย Kawaguchiko นั้นเองสถานีนี้มีความง่ายในการขึ้นที่สุดก็ว่าได้ เพราะที่ขายตั๋วคล้ายตู้บนทางด่วนบ้านเรา เดินผ่านตู้ไปก็ขึ้นรถไฟได้เลย
ราคาตลอดสายของรถไฟสายนี้คือ 1,140 เยน ต้นทางสุดปลายทางที่จุดเริ่มเที่ยว ภูเขาไฟฟูจิ
เวลาที่เราเข้าสู่ที่เที่ยวอะไรสักอย่าง สิ่งรอบตัวเราก็จะมีรูปนั้นเต็มไปหมด บนของกิน ของใช้ รถไฟก็ไม่เว้น ญี่ปุ่นนี่เป็นเมืองมีศิลปะในจิตใจจริงๆ
![เดินออกจากจุดนี้เลี้ยวขวาจะเห็น ตู้เก็บตังผ่านทางไป รถไฟสายคาวากูจิโกะ](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02399.jpg)
รถไฟสาย คาวากูจิโกะ นั้นนั่งสบายมาก เพราะเมื่อเราเดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว ความหนาวย่างกายเข้ามาจริงๆ เพราะอุณหภูมิลดหวบหาบ หลายไป 5 องศาได้ แต่บนรถไฟใต้เบาะมี ฮีตเตอร์น่ะ สบาย
ตามจริงแล้วก่อนมาที่นี่ดูพยากรณ์อากาศแล้ว เขาบอกว่าหมอกลงแน่ๆ แต่อยากพิสูจน์ว่าแม่นไหม บอกเลยว่า พยากรณ์อากาศที่ญี่ปุ่นแม่น 90 % ค่ะ
มาไม่เห็น ภูเขาไฟฟูจิ ขอมาเก็บบรรยากาศ รอบๆที่นี่ก็ยังดี มาครั้งหน้าจะได้รู้ว่าควรซื้อตั๋วแบบไหนดี
![บนรถไฟสายนี้ บอกได้ชัดเจนว่า เราอยู่บนรถไฟสายไหน](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02404.jpg)
เมื่ออยู่ในรถไฟรู้สึกสบาย อบอุ่น แต่เมื่อถึงปลายทางเท่านั้นแหละ หนาวมาก แล้ว หนาวอย่างเดียวไม่พอน่ะ ลมแรงมากด้วยน่ากลัวจริงๆ ลมแบบนี้
เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ก็เป็นไปตามที่คาดหมาย หมอกลงมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
ประกอบกับหนาวมาก ร่างกายถึงกับช็อค เลยขอนั่งคิดแผนการสักแปบจ้า ซึ่งในสถานีเองจะมีทุกอย่างบริการครบครัน สิ่งแรกที่ทำคือ เอากระเป๋าไปเก็บใน Locker ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือของสถานี สนนราคา 300 -600 เยนจ้า
![จุดเด่นของสถานีปลายทางเรา ใครมาต้องถ่ายรูป](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02408.jpg)
ตามจริงแล้วอีกจุดมุ่งหมายที่เรามาที่นี่เพราะ เราต้องการจะมานั่ง Night Bus เพื่อไปเมืองเกียวโตต่อนั้นเอง แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง
Night bus จากภูเขาไฟฟูจิ ขอเน้นยำว่า ต้องจองล่วงหน้า ผ่านเว็บไซต์จ้า เพราะมีแค่รอบเดียวหมดแล้วหมดเลย ซึ่งในอนาคตก็ไม่แน่
โดยเว็บจองนั้นขอแนะนำให้ดูผ่าน Pantip เพราะมีคนมาแปลให้ทำตามสเต็ปเลย เว็บจองเป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ ดังนี้ จอง Night bus คือควรจองไปแต่แรกค่ะ จะได้ไม่วุ่นวาย พอมาหน้าตั๋วเลยต้องโทรศัพท์เอง แล้วภาษาญี่ปุ่นก็ฟังไม่รู้เรื่องทำให้ต้อง อาศัยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ประจำสถานี
![เจ้าหน้าที่ผู้แสนน่ารักท่านนี้แหละค่ะที่คอยช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษปร่อมาก](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02409.jpg)
เมื่อได้รับการยืนยันจากการช่วยเหลือ ของเจ้าหน้าที่แล้วว่าบัสเต็ม ทางเลือกที่เขาช่วยเหลือมีอยู่ 2 ทาง ทางแรกคือต้องนั่งชินคันเซ็น หรือ ไม่ก็นั่งเครื่องบิน
เราตัดสินใจนั่ง ชินคันเซ็น แทนการนั่ง Night bus เพราะตั๋วหมด โดยจากสถานี คาวากูจิโกะ จะมีรถบัสไปส่งที่สถานี Mishima ราคาเบาๆ
ตอนนั้นต้องเช็คแล้วค่ะ ว่าจะมีชินคันเซ็น ไปเกียวโตกี่โมงบ้าง ด้วยความที่กลัวจะกลับมาไม่ทันเลยได้นั่งชินคันเซ็น รอบดึกถึงนั้นเกือบ 5 ทุ่มจ้า ช็อคจริงๆ
![ตั๋วรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปขึ้น ชินคันเซ็น จ้า](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02412.jpg)
ตามจริงแล้วการนั่ง Night bus นั้นถือว่าประหยัดไปในตัวได้อีกเพราะ ราคา 8 พันเยน แต่เมื่อเราไม่ได้ตั๋ว เราก็แอบนอยด์ ไม่ใช่น้อย แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปเนอะ
ในสถานีจะมีร้านอาหาร ที่มีของกินที่ถือว่าเป็น Signature ของที่นี่เลยก็ว่าได้ คือ บะหมี่คาวากูจิ
ค่อยๆกิน สโลไลฟต์ เพราะอากาศข้างนอกยังหนาวอยู่ยังรู้สึกว่ายังไม่พร้อมจะโต้ลมสักเท่าไร 55+
![เมนู Signature](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02416.jpg)
เวลาประมาณเกือน 11 โมงเช้าได้ตัดสินใจซื้อตั๋ว แบบแพ็คเกจเพื่อสามารถขึ้นลงได้ทุกสถานีทั้งสิ้น 21 สถานีรอบทะเลสาป คาวากูจิ แต่ขอบอกเลยว่า
ถ้าคุณมีเวลาจำกัด หรือ วันนั้นหมอกลงมองไม่เห็นอะไรมาก เลือกซื้อตั๋วแบบแค่เลือกสถานี ดีกว่าซื้อแบบเหมา
เอาเข้าจริงไปลงแค่ช่วงสถานีที่ 11 ก็พอแล้วเพราะที่นี่มีล่องเรือใน ทะเลสาป และ เดินไปอีกนิดก็นั่ง Cable ไปชมวิวได้ คือสถานีที่เหลือถ้าไม่ได้จะไปเข้าพิพิธภัณฑ์ดนตรี ไม่มีฟูจิให้ชม ก็ไม่คุ้มค่าที่จะแวะทุกสถานีค่ะ
![บัตรแบบเหมา โดนไปไม่น้อย](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02417.jpg)
ได้ตั๋วแล้ว ก็ต้องพร้อมเดินทางได้แล้ว จุดรอรถนั้นเริ่มต้นกันที่หน้าสถานีเลย ป้ายรถที่นี่น่ารักมากค่ะ อย่าลืมอีกเรื่อง ตั๋วรถบัสมี 2 สาย สายแดง และ สายเขียว
อย่าลืมไปต่อแถวให้ถูกต้องด้วยค่ะ เราซื้อบัตรแบบ Red line ก็ควรต่อแถวสีแดงน่ะ สังเกตดีๆจ้า
บัสแต่ละรอบคนเยอะอยู่แล้วค่ะ เราเลยยิงยาวไปถึงสถานี 21 แล้วค่อยๆ เที่ยวไล่ขึ้นมานั้นเอง แบบนั้นน่าจะโอเคที่สุดเพราะไม่ต้องแย้งกันเที่ยวกับคนอื่น
![ป้ายรถเมล์น่ารัก บนทางเท้าทาสีชัดเจนค่ะ เขียว แดง](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/page2-2.jpg)
ตั้งใจยิงยาวไปสถานีที่ 21 แต่คนขับเจ้ากรรมดันสื่อสารอะไรผิดไม่ทราบ เหมือนไล่ทุกคนลง ตอนนั้นก็เข้าใจว่าให้ต่ออีกคัน แต่ที่ไหนได้ เมื่อทุกคนลงหมด แถวสถานีที่ 11 แล้วดันไปรับคนต่อ
สถานีที่ 11 นั้นมีจุดเด่นคือที่ให้ล่องเรือนั้นเอง งั้นเลยล่องเรือรอดีกว่า
บนเรือนั้นมีแบบนั่งใต้เรือที่มองผ่านกระจก แต่อบอุ่น กับ บนเรือที่เห็นความสวยงามแต่หนาวมาก ขอเน้นว่าหนาวมาก แต่วิวก็สวยมากเช่นกัน ไม่อยากจะคิดว่าถ้าวันนี้อากาศโปร่งจะสวยขนาดไหน
![จุดเริ่มต้นของท่าเรือ](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02444.jpg)
![กระดิ่งบนเรือ](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02448.jpg)
![ล่องเรือออกมานิดหน่อย](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02461.jpg)
![จุดปลายทาง แล้วก็กลับ](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02469.jpg)
ทนหนาวเต็มที่แล้ว เราก็มานั่งรอรถเพื่อไปต่อที่สถานีที่ 21 สักที เที่ยวครั้งนี้ไม่มีจุดหมายปลายทางที่แท้จริง เพราะ ทำอย่างไรก็ไม่มีทางเห็นภูเขาไฟ
ที่สถานีที่ 21 จะมีร้านขายของฝาก และ ไอศครีมรสวานิลา บลูเบอรี่ ให้ลิ้มลอง
อากาศหนาวขนาดนี้ ภูเขาไฟก็ไม่เห็น ก็ต้องกินเพื่อทดแทน ที่สถานีนี้มีอีกเรื่องที่น่าสนใจคือสวนสวย ต้นไม้แปลกๆ ให้ชมกันจ้า
![วานิลา 130 เยนเอง](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02488.jpg)
![ต้นไม้แปลกๆที่นี่](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02487.jpg)
อากาศก็แบบนี้ มองอะไรก็ไม่เห็นเลยจ้า ทำให้ออกมายืนรอรถซึ่งจะมากันทุก 30 นาที ห้ามกินอะไรบนรถจ้า แอบนอยด์ไปนิดที่มัวแต่ยืนกินติม แล้วออกมาไม่ทันรถ คือออกมาทันแหละ
แต่คนคบแสดงภาษามือว่า ห้ามขึ้น เพราะในมือเรามีไอติมอยู่
ลืมบอกไปว่าสถานีนี้มีร้านขายของฝากที่หลายหลายมาก หลายคนอาจเคยกิน คุกกี้ ขนมรูปภูเขาไฟฟูจิ ช็อคโกแล็ต ของสะสมรูปภูเขาไฟฟูจิ ที่สถานนี้มีครบจ้า หลายหลายดี เตรียมตัง
![รถ Red line](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02490.jpg)
ณ จุดนี้ยอมรับเลยว่า ไม่มีที่ไหนที่อยากไปล่ะ 55+ คือ แอบคิดพลาดจริงๆที่อยู่ที่นี่ทั้งวัน ประกอบกับ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ซื้อตั๋วแบบเหมาแล้ว เลยขอเอาคุ้ม
สถานีไหนมีอะไร ก็ลงไปดู เน้นเอาคุ้ม 55+
เริ่มได้ลงกันแถวสถานี 18 เพราะมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับดนตรี และ มีการแสดงลิงที่ราคาโอเคด้วย แต่ว่าไม่ได้เข้าน่ะ เพราะดูเงียบแปลกๆ เขิล
![ได้แต่เดินดูรอบๆ 55+](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02499.jpg)
มีเรื่องอยากเล่าเรื่องนึง คือเวลาที่มาญี่ปุ่น แล้ว อยากชมธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ซากูระ ใบไม้เปลี่ยนสี หิมะ อะไรทำนองนี้ ถ้าจุดมุ่งหมายที่ไปไม่ได้เจอ
เราแค่เดินทางไปในที่ๆมีแทนสิ เช่น ซากูระ จะเริ่มบานจากข้างล่างขึ้นบน ถ้าเรามาเร็วไป เราก็แค่นั่งรถไฟลงไปทางใต้ของญี่ปุ่นแทน ใบไม้เปลี่ยนสีก็เช่นกัน ที่ไหนหนาวแล้วก็ไปที่นั้น อย่างเช่น คาวากูจิ นี่ไงดันหนาวกว่า โตเกียว
เราเลยเห็นใบไม้เปลี่ยนสีบนนี้อย่างชัดเจนอีกที่ แม้จะไม่หลากหลายมากนัก
![ใบไม้เปลี่ยนสี ปลายตุลาคม](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02511.jpg)
สวยงามตามบรรยากาศเนอะ จุดมุ่งหมายถัดไปคือ กลับไปใช้บัตรขึ้น Cable นั้นเองซึ่งต้องลงสถานีที่ 11 แต่ว่าลงผิด อีกแล้วง่ะ ลงสถานีที่ 12 เฉยๆ
แต่เวลาที่หลงทาง คุณมักจะเจออะไรที่ไม่เหมือนใคร วิวที่แปลกไปจากคนอื่นแน่นอน ไม่เชื่อลองดู
เดินกันยาวๆจ้า 55+ แล้วแบบอากาศถือว่ากำลังดี จนหนาว เลยเดินตากแดดเล่น รู้สึกว่าแสงแดดมีค่าก็ยามนี้แหละ คุณผู้ชม
![อย่าตามมา ฉันก็หลงเหมือนกัน 55+](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02531-1.jpg)
![เห็นอุโมงนี้แล้วนุกถึง ซีรีเกาหลีบางอย่าง พี่ชายยยยย](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02550.jpg)
เดินไปแปบเดียว 5 นาทีก็ถึงสถานีที่ 11 ซึ่งเป็สถานีเป้าหมาย เพราะมี Cable และจะมีวิวมหาชนที่ใครมา ก็ต้องถ่ายรูป ดังนั้นขอไปชมให้เห็นกับตาหน่อยสิ ว่ามีจริงหรอ
มุมมหาชนที่นี่ กระต่าย เต่า อะไรทำนองนั้น อิอิ นึกออกใช่ม่ะ
ขอเล่าด้วยภาพล่ะกันเนอะ 55+
![ทางขึ้นไปจ้า](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02567.jpg)
![มีบัตรเคเบิลที่ซื้อจากตอนเริ่มต้นแล่ว อย่าลืมมาแลกกับบัตรจริงก่อนขึ้นไปน่ะ เดินไปเรื่อยๆ เดียวเจ้าหน้าที่บอกเอง](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02569.jpg)
![ขึ้นมาถึงแล้วจ้า Cable](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02573.jpg)
![มองลงไป](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02575.jpg)
![สวยงาม](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02578.jpg)
เมื่อขึ้นมาถึงแล้วสิ่งที่หลายคนนิยมทำกัน และ ไม่พลาดที่จะทำก็คือ การนั่งกินขนมหนึบๆ พร้อมกับการดื่มชา ของที่นี่ คือหลายคนต้องเคยเห็นภาพอะไรทำนองนี้แน่ๆ คือ
ถือ ขนมอะไรไม่รู้คล้ายลูกชิ้น เทียบ กับภูเขาไปฟูจิ
นั้นแหละคุณผู้ชม เราก็ทำแบบนั้น ถ้าไม่เคยกินก็ต้องลองให้ได้ ราคาไม่แพง หวาน หนึบ ต้องกินคู่กับชา ถึงหายเลี่ยน
![นี่ไงล่ะขนมที่เขานิยม](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02583.jpg)
![ขนมก็ยังมีรูป ภูเขาไฟฟูจิ ดื่มคู่กับชาร้อน แก้เลี่ยน](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02584.jpg)
และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องโบกมือลา สถานที่แห่งนี้กันแล้ว ไม่พบเจอ ไม่เห็นภูเขาไฟ แต่ พอนึกถึงทีไร ก็รู้สึกว่า เต็มที่กับมันแล้วน่ะ ครั้งหน้าถ้ามีโอกาศไปที่นั้นอีก สัญญาว่าจะเชื่อพยากรณ์อากาศอย่างถึงที่สุด อิอิ
![แวะเข้าห้องน้ำ](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02579.jpg)
![มุมมหาชน](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02588.jpg)
![รัก อยู่ รอบตัวเรา](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02590.jpg)
แล้วเราก็กลับมานั่งรอรถบัสที่จะพาเราไปขึ้นชินคันเซน ขอบอกเลยว่าที่นี่ตรงเวลา ที่นั่งดี ปลอดภัยหายห่วง แต่มีบางอย่างที่น้อยคนไม่เคยรู้คือ
ที่ญี่ปุ่นนี้เอง รถติด เหมือนไทยเลยแหละ ทำให้มาช้ากว่าปกติเกือบชั่วโมง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่จองไว้ถือเป็นโมฆะเลยจ้า เพราะต้องเช็คอินก่อนเวลานี้ แต่ไปถึงคือช้ากว่าแน่แล้ว ทำให้ต้องจองที่พักคืนนั้นใหม่เลย การเดินทางก็แบบนี้แหละ 🙂
![โดนไปไม่น้อย 55+](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02614.jpg)
![รถบัสที่บอกไว้จ้า โอเคมาก](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02610.jpg)
![เร็ว เสียงดังมากเวลาอยู่ข้างนอก ผมปลิวเลย 55+](http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2015/11/DSC02617.jpg)