24 ชั่วโมงที่สามอินเดีย | นิวเดลี ที่เที่ยว นี่มันโคตรอินเดีย

นิวเดลี ที่เที่ยว นี่โคตรอินเดีย

นิวเดลี ที่เที่ยว โคตรอินเดีย – ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงเมืองสุดท้าย หลังจากไปเล่นเทศกาล Holi ที่เมือง Mathura มา กับความมั่นใจในการเดินทาง ที่คิดว่าในที่สุดก็รอดปลอยภัย กับทริป

ผู้หญิงคนเดียว มาอินเดียครั้งแรก ด้วยตัวเอง 

ทริปนี้มันเกิดขึ้นไวมาก กับความคิดที่ว่าอยากไปเทศกาล Holi จริงๆสักครั้งในชีวิต พยายามชวนคนนู่นคนนี่ไปทั่ว แต่ก็ไม่มีใครไปด้วยสักคน ด้วยความที่ทริปนี้มีเวลาเตรียมตัวแค่เพียง 1 อาทิตย์ ความพีคของทริปนี้ยิ่งทวีคูณ ตามเรามา 6 August Journey จะเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงคนเดียวเที่ยวอินเดียจะเป็นอย่างไร

ทัชมาฮาล ด้วยตัวเอง

 เตรียมตัวจากเมืองไทย

9 เรื่องที่อยากรีวิวเมื่อไปอินเดียกับ Jet Airways : คลิกที่นี่ (จองตั๋ว)
เอกสารที่ควร & ต้องปริ้น : คลิกที่นี่
จองตั๋วรถไฟเป็นสิ่งสำคัญแต่ปัญหาคือเขาไม่เปิดให้คนที่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์อินเดียจอง ดังนั้นลองหาคนที่รับจองตามเว็บก็ได้ ส่วนเวลาไปอยู่อินเดียแล้ว ก็วานให้พนักงานโรงแรมช่วย
แลกเงินถ้าเป็น Super rich ต้องโทรจองแล้วค่อยไปรับ แต่ครั้งนี้เราแลกที่สนามบินนิวเดลี ก็ไม่ต่างกันมากเราแลกน้อยด้วยแหละเลยไม่ซีเรียส
อินเตอร์เน็ต เป็นที่ทราบกันว่าที่อินเดียไม่ขายซิมส์กันง่ายๆ ทริปนี้เราลองใช้ AIS Sim 2 fly ก็โอเคอยู่ หรือ ใครจะเช่า Pocket wifi ไปก็ดีเราแนะนำ
อย่าลืมเตรียมหัวปลั๊กไฟ Universal ไปนะเพราะที่อินเดียหัวคนละแบบกับที่ประเทศไทย

 ชีวิตอินเดีย

 ทริปนี้ไปไหนมาบ้าง

แผนที่เที่ยวอินเดีย

 แผนที่เที่ยวนิวเดลี 24 ชั่วโมง

 งบสำหรับทริปนี้

4th DAY : กลับมาถึงเมืองหลวงอีกครั้ง

รถที่เหมามาจากเมือง Mathura ก็พาเรามาลงที่กลางใจเมืองอย่าง สถานี New Delhi มาชั่วโมงแรกก็โดนเล่นแล้วจ้า !!! เราคุยกับที่พักมาแน่นอนแล้วว่าไปที่พักราคามันต้อง 50 IDR แต่พวกริกชอร์พวกนี้ไม่ยอมจ้า ทุกคนต่างพูดว่า 150 IDR และ 200 IDR บ้าง แล้วเป็นแบบนี้ทุกคน !!! สุดท้ายโดนไป 150 IDR

เข้าสู่ที่พักเหมือนคนล่ะโลกกับข้างนอก ครั้งนี้เราแนะนำที่นี่เลย Bloomroom ถือว่ามีครบสำหรับการเป็นตัวเลือก คือ สะอาด ปลอดภัย ใกล้ที่คมนาคม ครั้งนี้จองผ่าน Traveloka เป็นช่วงที่มีโปรโมชั่นพอดีด้วย ก็ช่วย save budget ในการเดินทางได้เยอะ

เก็บกระเป๋าแล้วเตรียมตัว ตะลุยโลกกว้างต่อได้ จุดแรกที่เราจะไปสัมผัสความเป็นอินเดีย ที่แท้ทรูคือ Chandni Chowk ตลาดอินเดียยยยยย เราอาศัยนั่ง Uber ไปเลยประมาณ 15 บาทไทย สำหรับค่ารถมุ่งสู่ตลาดแห่งนี้

คือแบบมันก็ยังไม่ถึง เขาก็ให้ลงพร้อมชี้ไปว่าเดินเข้าไปข้างใน คือแบบมันเป็นตลาดเครื่องมือช่างอะ แล้วมีแต่ผู้ชาย !! คือเป็นเป้าสายตามากเมื่อเดินเข้าไป เลยเหลือบไปเห็นร้าน Street food ร้านนึงมีผู้ชายแต่งตัวดี ยืนกิน มันดูน่ากินมาก เราเลยทัก 55+

ยูกินอะไร สั่งให้ได้ไหม มันเรียกว่าอะไร เขาก็ยินดีนะสั่งให้ โรตี 2 แผ่นพร้อมกับ Chona Kucha มันเป็นแกงที่มีหอมแดง มะเขือเทศคลุกพริก ผสมมา อร่อยอย่าบอกใครเลยแหละ ราคา 20 IDR หรือ 10 บาทไทย อิ่มไปอีกมื้อเต็มๆ ระหว่างนี้ก็เปิด Google Map เดินไปหา Chandni Chowk ผ่านตลาดเครื่องมือช่างแล้ว ก็มาเห็นบางร้านที่คนมุงกัน แล้วเป็นผู้หญิงแม่ลูก แต่งตัวดีมายืนกินกันได้ แน่นอนว่าเราต้องแวะสำหรับร้านชื่อว่า Ashok chat corner มันอยู่ตรงมุมพอดีขาย Bhalla papdi ขนมหวานราดแกงเผ็ดอินเดีย จัดชุดใหญ่ไป 60 IDR หรือ 30 บาทไทย

อร่อยดี มาค่ะไปตามหากันต่อ กว่าจะถึง Chandni Chowk ต้องผ่านจุดนี้ก่อนย่าน Ballimaran ที่มีความเป็นอินเดียแบบ 100% ทุกอย่างดูเก่า แล้วถนนก็แคบลงอีกมาก แล้ววุ่นวายมากๆ ท้ายซอยสุดจะเห็นมัสยิดใหญ่ๆสวยๆอย่าง Jama Masjid

ระหว่างทางจะเห็นความ Street food ที่มีเยอะมากๆ แล้วก็เหมือนมันผ่านมา 10 ปีแล้วที่นี่ก็ไม่เปลี่ยนไปไหนเลย สุดท้ายแล้วเราก็มาถึง สถานีรถไฟ Chandni Chowk คือแบบเอาเข้าจริงจุดนี้มันแยกไปหลายตลาดมาก ตรอก ซอก ซอยเยอะ เดินเท่าที่รู้สึกปลอดภัย

แล้วเราก็ไปแวะที่ Jama Masjid โดยไม่ได้คาดคิด คือเคยได้ยินว่าที่นิวเดลีมีมัสยิดสวย และ ใหญ่อยู่เลยเลยมาลองดู ระหว่างทางเข้าไปมันเหมือนมีคนไร้บ้าน มาตั้งแคมป์เต็มไปหมดเลย คือมานอนกลางถนน รู้สึกแปลกๆ แล้วก็เตรียมตัวถอดรองเท้าเข้าไปชม

ความงามแรก นิวเดลี ที่เที่ยวที่นี่มีคนมาขอถ่ายรูปเราเยอะมาก เดินไปก็เจอ เดินไปก็เจอ เหมือนที่ทัชมาฮาลเลย คือแบบก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเราเป็นตัวประหลาดหรือเปล่า จังหวะนั้นเองจ้า โดนลุงคนนึงมาสะกิดแล้วถามว่า ยูจ่ายค่า camera หรือยัง โดนลากไปอ่านป้ายเลยจ้า โดนไป 300 IDR หรือ 150 บาท

Jama Masjid นิวเดลี ที่เที่ยวจุดนี้อยู่ใกล้ Red Fort เราตั้งใจจะไป Red Fort ต่อแต่กว่าจะถึงจุดนั้น โอ้โห้คุณ ต้องถึงกับอุทาน นี่มันอะไรกันเนี่ย คือเราจะไปเจอจุดขายเสื้อผ้า กระเป๋า สารพัด แล้วเป็นวันอาทิตย์ คือแบบเหม็นก็เหม็น ร้อนก็ร้อน คนก็เยอะ จังหวะนั้นถึงกับไข้ขึ้นอะบอกเลย

แล้วทางเข้า Red Fort นะคนเป็นล้าน เป็นคนอินเดียล้วนๆ ออกันเต็มไปหมด เราเลยคิดว่า มาแค่นี้ก็พอแล้วไหม คือแบบไม่ไหวจริงๆ มุ่งหน้ากลับที่พักดีกว่า ณ จุดนี้ไม่ไหวเหมือนจะป่วยเพราะ เสียงแตร อากาศร้อน คนเยอะ เลยมุ่งหน้ากลับไปที่สถานี New Delhi

ความพีคก็บังเกิด ด้วยความที่เราหาริกชอร์ที่ราคาโอเคไม่ได้ เลยตัดสินใจจะเดินกลับที่พัก เลยเดินผ่านร้านข้าวแบบข้างถนนข้างสถานี ด้วยความที่เอาปลากระป๋องมากินด้วยเลยจะซื้อข้าวเปล่า ตักเสร็จสรรพมันบอก 150 IDR ตอนนั้นก็กะจะไม่เอาแล้ว

แต่กลัวมีปัญหา แล้วเปิดกระเป๋าสตางค์ไปเหลือแค่แบงค์ 2000 IDR ความพีคบังเกิด !!! นางก็เอาเงินไปแลกพร้อมกับตักข้าวตักปลาเพิ่ม แล้วบอกเราว่า 250 IDR !!!! จำไว้ใครอ่านมาถึงจุดนี้อย่าได้พลาดซื้ออะไรข้างทางโดยไม่มีคนอินเดียช่วย

แล้วเราก็หัวเสียมาก เดินกลับมาที่สถานีริกชอร์ก็ไม่ขึ้นแน่นอน เลยเข้าไปที่บูต OLA บอกว่าริกชอร์พวกนี้เขาชาร์ตเงินเรามาก ขั้นต่ำ 150 IDR ช่วยเรียก OLA ให้เราทีสรุปได้ราคา 100 IDR กลับที่พัก ไม่อยากเรียก Uber กลัวมีปัญหา

ข้าวที่ซื้อมาก็ไม่กล้ากินอีก แมลงวันตอมขนาดนั้นกลัวเป็นอะไร เลยมานั่งที่ร้านอาหารข้างโรงแรม แล้วหาหมาข้างทาง ก็พอเห็นนะ แต่เรานึกขึ้นได้ว่าที่อินเดียมีคนยากจนไร้บ้านเยอะ เลยเดินไปบอกพนักงานโรงแรม ว่าเราซื้อข้าวมา เรากินไม่ได้ พาเราไปให้คนไร้บ้านที

ตอนแรกพนักงานชี้บอกว่า ทางนี้เต็มเลย เราเลยบอกว่า ยูจะไม่ไปกับเราหน่อยหรอ มันไม่ปลอดภัยนะ เขาเลยยอมเดินไปเป็นเพื่อนเรา แล้วเจอคนที่คล้ายกับคนบ้าผ่านมาพอดี เลยให้เขาไป พนักงานโรงแรมบอกว่า He will praise you. เราก็อาบน้ำ พักผ่อน ปลอดภัยไปอีกวัน

5th Day : กลับบ้านแล้ว

เป็นเช้าที่สดใส เพราะในใจคิดว่า เรามาอินเดีย คนเดียว ครั้งแรก แล้วรอดปลอดภัยได้ขนาดนี้เลย เป็นอะไรที่รู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะ แต่เราก็นึกถึงคำๆนึงนะ เขาบอกว่าไม่มีที่ใดในโลกนี้ที่ปลอดภัยที่สุดหรอก แล้วก็ไปทานอาหารเช้า เราอยากใช้ชีวิต Slow life

ที่นี่ไม่มีซอสภูเขาทอง ใส่ไข่ดาวนะ แต่เขาใส่อะไรมาไม่รู้ เค็ม แต่อร่อยใช้ได้เลย แน่นอนว่าบุฟเฟต์อาหารเช้าที่นี่ เรากินไข่ไป 6 ฟอง เอง ต้องยอมรับว่าบุฟเฟต์อาหารเช้าที่นี่ราคาแรงใช้ได้ต้องกินเผื่อเที่ยงไปเลย 55+ จากนั้นเราก็อาบน้ำเก็บกระเป๋าลากไปเที่ยวที่สุดท้ายอย่าง Agrasen Ki Baoli

นั่ง Uber แบบ Pool มาเช่นเดิมประมาณ 20 บาทได้ครั้งนี้ ตอนเห็นที่นี่ครั้งแรกรู้สึกชอบแหะ มันสวย อลังดี ที่สำคัญวัยรุ่นอินเดียนิยมมาถ่ายรูปกับที่นี่เยอะมากนะ แบบคนเต็มไปหมด แต่ดีที่มาเช้าเลยถ่ายรูปได้ เพราะนั่งไปสักพักมีแต่คนมา

จากนั้นเราก็รีบไปตลาดเพื่อซื้อของฝาก ตัดสินใจถูกมากที่มาสำหรับ Sarojini Nagar คือได้ผ้าพันคอมาเต็มเลย แบบเดียวกับแพลตินัมเขาขาย 70 บาท แต่ที่นี่ขาย 30 บาทส่าหรี่ขาย 150 บาท กระเป๋าขาย 75 บาทเอาเป็นว่าขนกลับมาให้หมด

ก่อนจะเร่งรีบปั่น 4 x 100 ไปสนามบิน ณ จุดนี้ สนามบินใหญ่ขนาดนี้ถ้าไม่รีบคือตกเครื่องแน่ๆ ฝากไว้เลยถ้าใครจะบินนิวเดลีควรเผื่อเวลาสัก 2 ชั่วโมงในการทำนู่นนี่นั่น บินกับ Jet Airway เวลาดีตอนมาก็เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ขากลับก็เห็นพระอาทิตย์ตก เราชอบตรงนี้