Site icon 6 AUGUST JOURNEY

24 ชั่วโมงที่สองอินเดีย | เทศกาล Holi สักครั้งในชีวิต

เทศกาล Holi…สักครั้งในชีวิต

เทศกาล Holi สักครั้งในชีวิต – ภาคต่อสำหรับเรื่องราวการไปเห็นสิ่งมหัศจรรย์โลกสมัยใหม่อย่าง ทัชมาฮาล ใช้เวลา 24 ชั่วโมงเต็มวัน ภาคนี้จะเป็นเรื่องการร่วมเทศกาล Holi สักครั้งในชีวิต กับสโลแกนทริปนี้

ผู้หญิงคนเดียว มาอินเดียครั้งแรก ด้วยตัวเอง 

ทริปนี้มันเกิดขึ้นไวมาก กับความคิดที่ว่าอยากไปเทศกาล Holi จริงๆสักครั้งในชีวิต พยายามชวนคนนู่นคนนี่ไปทั่ว แต่ก็ไม่มีใครไปด้วยสักคน ด้วยความที่ทริปนี้มีเวลาเตรียมตัวแค่เพียง 1 อาทิตย์ ความพีคของทริปนี้ยิ่งทวีคูณ ตามเรามา 6 August Journey จะเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงคนเดียวเที่ยวอินเดียจะเป็นอย่างไร

[icon type=”fa-map-o” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] เตรียมตัวจากเมืองไทย[divider style=”dotted” height=”2px” color=”#fcf06d”][section background_image=”http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2018/03/DSC02836.jpg” text_color=”#000000″ background_color=”#eeeeee”][icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ] 9 เรื่องที่อยากรีวิวเมื่อไปอินเดียกับ Jet Airways : คลิกที่นี่ (จองตั๋ว)
[icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ]เอกสารที่ควร & ต้องปริ้น : คลิกที่นี่
[icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ] จองตั๋วรถไฟเป็นสิ่งสำคัญแต่ปัญหาคือเขาไม่เปิดให้คนที่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์อินเดียจอง ดังนั้นลองหาคนที่รับจองตามเว็บก็ได้ ส่วนเวลาไปอยู่อินเดียแล้ว ก็วานให้พนักงานโรงแรมช่วย
[icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ]แลกเงินถ้าเป็น Super rich ต้องโทรจองแล้วค่อยไปรับ แต่ครั้งนี้เราแลกที่สนามบินนิวเดลี ก็ไม่ต่างกันมากเราแลกน้อยด้วยแหละเลยไม่ซีเรียส
[icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ] อินเตอร์เน็ต เป็นที่ทราบกันว่าที่อินเดียไม่ขายซิมส์กันง่ายๆ ทริปนี้เราลองใช้ AIS Sim 2 fly ก็โอเคอยู่ หรือ ใครจะเช่า Pocket wifi ไปก็ดีเราแนะนำ
[icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ] อย่าลืมเตรียมหัวปลั๊กไฟ Universal ไปนะเพราะที่อินเดียหัวคนละแบบกับที่ประเทศไทย[/section]

[icon type=”fa-map-o” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] ชีวิตอินเดีย[divider style=”dotted” height=”2px” color=”#fcf06d”][toggle title=”การเดินทางในอินเดีย ทริคที่อยากแนะนำ”]ไปอินเดียครั้งนี้เราไปคนเดียว การเหมารถจึงเป็นไปไม่ได้เลย เราจึงอยากแชร์การเดินทางทั้งหมดเราใช้ และ ทริคที่อยากเล่าด้วย

[icon type=”fa-automobile” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] รถไฟ
การเดินทางข้ามเมืองกับรถไฟเป็นของคู่กัน โดยรถไฟอินเดียจะให้ดีต้องจองล่วงหน้า เพราะเต็มบ่อยมาก แนะนำให้ใช้บริการคนจองรถไฟจากไทย สามารถหาได้จาก Google ถ้าแบบจองก็จะดูดีเลยแหละ มีแอร์ มีที่นั่งที่นอนนุ่มสบาย แต่ถ้าไม่ได้จอง ก็จะพบชะตากรรมแบบเรา ฮ่าๆ

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

[icon type=”fa-automobile” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Metro ในนิวเดลีเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายในเมืองหลวง เราว่ารถไฟ Metro บ้านเขาดีกว่าบ้านเราอีกนะ ใหม่ ไม่มีเสียงโฆษณาใดๆ ผู้คนก็ดูแต่งตัวสะอาด ที่สำคัญมีแอพพลิเคชั่นดูได้ด้วยว่าจะไปสถานีไหน ต้องนั่งสายอะไร เราเขียนขั้นตอนการใช้งานไว้ให้ดังภาพข้างล่าง

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

[icon type=”fa-automobile” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Uber

ด้วยความที่เราอยู่เมืองไทย เราก็ใช้ Uber อยู่แล้ว มาที่นี่ก็พบอีกรูปแบบการบริการคือ เขามีเรียกแบบถูกๆ แต่จะแชร์กัน เขาเรียกว่าแบบ Pool แต่ก็แชร์กันแบบคนสองคน โดยเขาจะมีจุดหมายเดียวกับเราบ้าง ทางเดียวกับเราบ้าง ลงก่อนเราบ้าง ลงหลังเราบ้างในรถคันเดียว ราคาแต่ล่ะรอบ 15-20 บาทไทยเองเวลาที่แชร์กับคนอื่น ส่วนใครที่อยากนั่งแบบเมืองไทยก็เลือกแบบ Go ในความคิดเราก็ไม่แพงนะ
คำเตือน อย่าไปเรียกในย่านที่พลุกพล่าน มิฉะนั้นจะหากันไม่เจอ แล้วติดต่อกันไม่ได้ เพราะอย่าลืมเราไม่มีเบอร์อินเดีย

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

[icon type=”fa-automobile” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ]  เรียกรถผ่าน Ola

เจ้านี้ก็สงวนให้กับคนที่มีเบอร์อินเดียอีกแล้ว เราใช้เจ้านี้สำหรับหารรถข้ามเมืองกัน เพราะเพื่อนชาวฝรั่งมาอยู่นาน นางเลยมีเบอร์ที่นี่ หรือใครขอให้เจ้าหน้าที่ทางโรงแรมช่วยก็ได้ ข้อดีคือเห็นราคาก่อนเรียก เราจะพอใจไม่พอใจค่อยเรียก ก็ดีไปอีกแบบ
แนะนำ ตรงสถานีนิวเดลี จะมีบูท Ola ตั้งอยู่เราเคยขอให้เข้าช่วยเหลือเรียกให้เขาก็ช่วยนะ ดีไปอีกแบบ

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

[icon type=”fa-automobile” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] ริกชอร์ถ้าเราอยู่นิวเดลีนะ เราจะให้ริกชอร์เป็นทางเลือกสุดทายด้วยความที่ในนิวเดลี มันพูดเป็นอยู่คำสองคำคือ One-fifty และ two-hundred ห่าน !!! ถ้าอยู่ต่างเมืองแนะนำให้ต่อไปเลย 50% หรือใครจะต่อมากกว่านั้นก็ได้ เราลองหาเทคนิคอีกเรื่อง คือ ทำเป็นทักคนอินเดียที่ดูดี เหมือนมีตัง ทำเป็นบอกว่าเนี่ยเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ช่วยฉันหน่อยสิ เขาจะไปพูดให้ถ้ามันเรียกแพงเขาก็ต่อให้เสร็จสรรพ ลองๆ

[/toggle][toggle title=”ไปอินเดียซื้ออะไร”]ส่วนใหญ่ถ้าเที่ยวแถวนิวเดลี ยังไม่ได้ภาคเหนือมากๆนักเราแนะนำ ขนม ช็อคโกแลต ผ้า และ ปากกา แถมเพิ่มจะเป็นปากกาเขียนขอบตา เพราะคนอินเดียชอบใช้กันแต่ตัวเราเองไปหลงไหล ได้ปลื้มกับตลาดนัดบ้านเขาอย่างตลาด Sarojini Nagar เพราที่นี่ขายเสื้อผ้า สาหรี่ เต็มไปหมดแล้วถูกมากๆ อย่างผ้าคลุมไหลที่ขายในไทยผืนล่ะ 100 แต่ที่นี่ขาย 30 บาทไทย กระเป๋าขายที่ไทยใบล่ะ 100 อัพที่นี่ขาย 70 บาท

กระเป๋าช็อปปิ้งใบล่ะ 75 บาท

[/toggle][toggle title=”ไปอินเดียกินอะไร ที่พอกินได้”] เป็นปัญหาระดับชาติ เพราะบางคนกินไม่ได้ก็กินไม่ได้เลย ซึ่งเราไม่มั่นใจตัวเอง เลยเตรียมมาม่า กับ อาหารกระป๋องไปด้วย แต่เมื่อได้ลองทานจริงๆ มันก็มีอร่อยบ้าง แปลกๆบ้าง โดยในที่นี่เราอยากเล่าถึงอะไรที่อร่อยเนอะ

[icon type=”fa-cutlery” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Masala

มันคือแกงเผ็ดที่ใส่ มัสซาลา คล้ายแขนงบ้านเรา ที่เราชอบกินจะเป็น มัสซาลาไก่ แนะนำให้กินคู่กับ จาปาตี หรือโรตีบ้านเรา โดยเมนูนี้สามารถหากินได้ตามร้านอาหาร ถือเป็นอะไรที่กินง่าย หาง่ายถูกปาก

[tdivider style=”fa-heart” color=”#222222″]

[icon type=”fa-cutlery” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Chona Kucha เมนูนี้ให้ 10 ดาว เพราะมีแค่ 10 บาทก็อิ่มไปได้อีกมื้อ มันจะเป็นเมนูแนวๆแกง แต่ใส่พริก ใส่หอม ใส่มะเขือเทศคลุกๆกันได้ยำออกมา แล้วกินกับโรตีนะ โคตรเด็ด โดยเมนูแบบนี้เราเห็นมีขายทั่วเลย แนะนำให้ลองถ้าไปเดินตลาดต้องเจอบ้าง

[tdivider style=”fa-heart” color=”#222222″]

[icon type=”fa-cutlery” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Bhalla papdiคือเราเข้าใจว่าเป็นขนมหวาน แต่มีอะไรเผ็ดๆราด ที่สำคัญมันจะเย็นๆ มีความหวานมันเป็นกะทิ เราไม่เคยรู้หรอกว่ามีจนได้ไปเดินตลาดแถว Chandni Chowk ที่กรุงนิวเดลี เห็นคนมุงเยอะเลยลองเอาบ้างราคา 30 บาทไทยได้

[tdivider style=”fa-heart” color=”#222222″]

[icon type=”fa-cutlery” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Street food ที่ตลาดนิวเดลี

กาแฟ ชา ในตำนาน
ไว้กินกับโรตี
แซนวิชไหม
ผลไม้ 10 บาท

[/toggle]

[icon type=”fa-map-o” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] ทริปนี้ไปไหนมาบ้าง[divider style=”dotted” height=”2px” color=”#fcf06d”]

[icon type=”fa-map-o” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] งบสำหรับทริปนี้[divider style=”dotted” height=”2px” color=”#fcf06d”]

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

2nd Day : มาถึงก็ค่ำแล้ว

อย่างที่บอกเลย เราเรียกรถด้วย Ola ให้เขาไปส่งที่เมือง Mathura โดยเราหารกับเพื่อนฝรั่งที่รู้จักกันตอนไปทัชมาฮาลอีก 2 คนโดยเราเพื่อนชาวฝรั่งเศสมาหารค่าห้องกัน โดยค่ารถหารกันแล้วตกคนล่ะ 560 IDR หรือ 280 บาท เท่านั้นแต่การนั่งรถในอินเดียเป็นอะไรที่ระทึกมาก

ชั่วโมงนิดๆก็มาถึงที่พักในค่ำคืนนี้ ด้วยความที่เราเตรียมตัวกับเทศกาลนี้เพียงแค่ 1 อาทิตย์ แล้วเป็นอะไรที่คนทั่วโลกมุ่งหน้ามาที่นี่หมด ที่พักก็หายาก ที่ถูกก็ไฺม่ต้อนรับคนต่างชาติ เราเลยต้องยอมจ่ายแพงขึ้นหน่อยสำหรับที่พักคืนนี้อย่าง Brijwasi ที่หรูใช้ได้ แต่บรรยากาศการเช็คอินก็เจอความ Holi แต่แรกเลย

ค่ำคืนนี้อย่างที่บอกเลยเราชวนเพื่อนต่างชาติชื่อ Soraya มาแชร์ห้องข้อดีที่มีนางคือนางพูดภาษาอังกฤษได้ปร่อมาก ไปไหนมาไหนก็มีนางช่วยเรื่องนี้แหละ

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

3rd Day : สงครามสีสันเริ่มแล้ว

ที่พักเรามีอาหารเช้าฟรี ก็ลงมาทาน แล้วก็เตรียมตัวสำหรับเทศกาล Holi เราเตรียมตัวซื้อซองกันน้ำกล้องมาด้วย รวมทั้งพกเงินไปไม่เยอะ ประมาณ 200 บาทไทยได้ เพราะวันก่อนเราไปมีคนกระเป๋าตังหายในเทศกาลนี้เราเลยไม่พกไปเยอะ ที่สำคัญทาน้ำมันให้ทั่วตัวเพราะเวลาล้างสีออกจะได้ง่ายๆ

เรานัดไกด์ ที่ไม่ใช่ไกด์ เรื่องมีอยู่ว่า เราเคยอ่านมาหลายๆแหล่งเขาบอกว่า เทศกาลนี้ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่มาคนเดียว เราเลยจ้างคนอินเดียที่จะมาดูแลเรา โดยให้พี่คนไทยติดต่อไว้ให้

การเล่นเทศกาล holi อย่างจริงจังของเพื่อนเราคือ นางซื้อชุดเล่น Holi มาซึ่งเราไม่เข้าใจว่ามีนัยยะบางอย่างหรือเปล่า เพราะเราเข้าใจว่าชุดอะไรก็เล่นได้หรือเปล่า แล้วเขาก็มีหมวก มีสีขายเป็นซองๆตกซองล่ะ 5 บาทว่างั้น

ก่อนไปถึงจุดที่เขาเล่นกันเยอะๆ เราก็แวะไปวัดของฮินดูก่อน เราบอกเลยว่าระหว่างทางก็มีคนเล่นนะ เหมือนสงกรานต์บ้านเราเลยแหละ ที่แบบขับรถผ่านก็สาดอะไรทำนองนี้ แวะไปวัดก่อน

เรื่องเล่าในวัดคือ อย่างที่รู้กันว่าทางศาสนาฮินดูจะมีพระเยอะ เราก็จะเดินไปทีละชั้นเพื่อขอพรอะไรทำนองนั้น แต่จะมีบางชั้นที่จะทำพิธีเจิม โดยที่คนเจิมคงมีสิทธิบางอย่าง ที่จะมีน้ำให้ดื่ม แล้วลูบหัว ถึงจะเจิมจุดแดงๆให้ที่หน้าผาก

ความพีคคือ Soraya นางก็อยากทำบ้าง แล้วก็รับน้ำไว้บนฝ่ามือ แล้วไกด์ก็บอกให้ดื่ม นางสตั๊นไป 10 วิแล้วบอกไม่มีทาง ฉันจะไม่มีทางดื่มน้ำที่ไหนในอินเดียที่ไม่มาจากขวดน้ำดื่ม 55+ กลายเป็นพิธีจบ ไม่ต้องจงต้องเจิมใดๆทั้งสิ้น 55+ แต่เราสังเกตจริงๆนะนางใช้น้ำดื่มในขวดแปรงฟัน ไม่ใช้น้ำจากก๊อก

จังหวะที่เดินในวัด ก็จะเจอคนขอเล่น Holi ด้วยตลอดทาง เขาจะขออนุญาตก่อนเสมอ 90% เราว่าเล่นกันแบบสุภาพ แต่ถ้าเราหลงไปเจอจุดที่แบบ ควบคุมไม่ได้ก็มีนะ อย่างเช่นเวลานั่งรถตุ๊กๆเนี่ยแหละ จังหวะรถติด พัวพันแล้วมันจะชอบมารุม ดีตรงที่ไกด์เราดูไม่งั้นนะ … เรื่องโดนลวนลามเนี่ยเกิดแน่นอนๆ

แล้วเราก็เดินทางมาถึงจุดที่เขาเล่น Holi กันเยอะๆอย่าง Shri Dwarkadheesh temple ที่นี่เป็นวัดดังอันดับต้นๆ ที่จะเล่นกันใหญ่มาก เล่นใหญ่แบบที่ว่า เราเป็นผู้หญิงเองไม่ควรเดินเข้าไปเป็นอันขาด คือไม่มั่นใจถึงความปลอดภัย เล่นเล่นกันตามถนนทางเข้าวัด

ส่วนบรรยากาศในวัดวันนั้นพี่ผู้ชาย ที่เราไปเจอแถวทัชมาฮาลที่เป็นคนไทยแกถ่ายไว้ได้ เราเลยขอเอาบรรยากาศมาฝากกัน สวยงามสนุกสนานกันสุดเหวี่ยง แล้วภาพสวยมากด้วย

ส่วนตัวเรานั้นก็เดินในถนนคล้ายๆ ถนนข้าวสารบ้านเราเลย เล่นกันแบบเละๆ น้ำเย็นสาดลงมาบ้าง โฟมบ้าง สีบ้าง สีบ้าง เละเทะสุดๆ แต่ก็สนุกดีๆ

ไม่ถึงเที่ยงวันก็กลับมาทานอาหารที่โรงแรม สภาพคนในโรงแรมราวกับ ซอมบี้ ทุกคนมีสถาพไม่ต่างกัน ทานเสร็จออกไปเล่นต่อ ตลกดี ส่วนตัวเรานั้นอาบน้ำ พักผ่อนในโรงแรมต่อดีกว่าเพราะเละมากจริงๆ

ตกเย็นแอบลงมาซื้อช็อคโกแลตที่เคาเตอร์โรงแรมกินชิ้นละ 10 บาทเองแต่รสชาติความอร่อย แบบที่เมืองไทยคงราคาแบบ 30-40 บาทได้ข้อดีของอินเดียอีกเรื่องคงเป็นเรื่องโกโก้ ช็อคโกแลต

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

4th DAY : เดินทางสู่เมืองหลวง

ก็ไม่มีอะไรมาก มาสถานีรถไฟ อยากนั่ง AC Class แล้วไม่ได้จองก็แน่นอนว่า Not available เราจึงขอเน้นย้ำเรื่องการจองรถไฟ จังหวะนั้นเองเราเจอผู้ชายที่เขาเหมือนเป็นลูกครึ่งอินเดีย แต่ไปอาศัยอยู่มาเลเซีย ก็โดนปฎิเสธเหมือนเรา แล้วเขาต้องรีบเพราะต้องบินกลับมาเลเซีย เขาเลยต้องเหมารถ เราเห็นว่าเขาพูดฮินดีได้เลยขอหารแล้วเหมากลับกันโดนไปคนล่ะ 1,400 IDR หรือ 700 บาทไทย ไปกันค่ะเมืองเดลี ที่อยากจะด่า 3 วัน 7 วัน ฮ่าาา

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

อยากแชร์สำหรับใครที่อยากตามรอย
1. เราขอฝากเรื่องการเตรียมตัวไปเทศกาล Holi ในปีถัดไป เตรียมตัวล่วงหน้าสักเดือน – สามเดือน เพราะที่พักจะได้ไม่แพงมาก
2. วันแรกๆจะสนุกกว่าวันท้ายๆ วิธีเช็ควันที่ดีคือ google ด้วย keyword ว่า Holi date 20xx เช่น Holi date 2019
3. ซองกันน้ำ กระเป๋าคาดเอว น้ำมันทาตัว เตรียมไปจากเมืองไทยเลย
เตรียมตัวประมาณนี้เราเชื่อว่าจะโอเคแน่นอน แต่สำหรับสาวๆ แนะนำให้หนีบ หรือ กอดอกเวลาเล่นนะ 55+

Exit mobile version